งามไส้ รองประธานสภาเทศบาล ค้ายาบ้า ถูก ตร.บุกจับยกครัว 3พ่อลูกฉี่ม่วงทั้งบ้าน นายกเทศมนตรี รายงานด่วยถึงผู้ว่า เตรียมสั่งปลดจากตำแหน่งแล้ว

วันที่ 7 ก.ย.2566 พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า วานนี้ ได้สั่งการ พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ณ อุบล รอง ผกก.สส.สภ.เมือง นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน พร้อมมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 421/2566 ลงวันที่ 6ก ย.2566

เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 49/13 หมู่ 1 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านพักของนายไพรัช สัญญากิจ อายุ 64 ปี หรือ สท.แก้ว มีตำแหน่งเป็นรองประธานสภาเทศบาลตำบลปากนคร หลังชาวบ้านในพื้นที่ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงาน ปปส.ภาค 8 ว่านายไพรัชฯ และครอบครัวมีพฤติการณ์ลักลอบขายยาบ้าและมั่วสุมเสพยาเสพติดมานานแล้ว

โดยที่บ้านดังกล่าวมีนายไพรัช พร้อมลูกชาย 2 คน คือนายศุภชัย สัญญากิจ อายุ 23 ปี และนายศุภฤกษ์ สัญญากิจ อายุ 29 ปี อยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นในบ้านดังกล่าว และผลการตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 10 เม็ดอยู่ในตัวนายศุภชัย ค้นในตัวนายศุภฤกษ์ ไม่พบยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจปัสสาวะของ 3 พ่อลูก พบว่าปัสสาวะสีม่วงทั้งหมด

เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายไพรัช พร้อมลูกชายทั้ง 2 คน และของกลางส่งพนักงานาสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 พ่อลูกรับสารภาพว่าเอาไว้เสพอย่างเดียว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว 3 พ่อลูกไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ทั้งนี้การจับกุมนายไพรัช รองประธานสภาเทศบาลตำบลปากนครในครั้งนี้ ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เนื่องจากนายไพรัช เป็นถึงนักการเมืองท้องถิ่น มีตำแหน่งเป็นรองประธานสภาเทศบาลตำบล แต่มีพฤติกรรมพัวพันยาเสพติด

ขณะที่ นายปรีชา แก้วกระจ่าง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปากนคร ได้รายงานด่วนไปยังนายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราการจังหวัดนครศรีธรรมราชรับทราบแล้ว และเตรียมทำหนังสือปลดนายไพรัชออกจากตำแหน่งทั้ง สท.และรองประธานสภา ขณะ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งกำชับให้สอบสวนขยายผลและจับกุมผู้ที่เกี่ยวของมาดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดโดยไม่ละเว้น

นายปรีชา กล่าวว่า ทั้งหมดได้รายงานให้นายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ทราบด้วยวาจาแล้ว และจะรายงานให้นายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัด ทราบอย่างเป็นทางการในวันสองวันนี้ เรื่องยาเสพติดถือเป็นเรื่องร้ายแรงที่สมาชิกสภาทองถิ่นถือเป็นผู้ทรงเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน แต่กลับมาทำผิดเสียเองเป็นแบบอย่างไม่ดี อยากให้ตำรวจเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหายาเสพติด จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันประชาชนทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มอายุล้วนตกเป็นเหยื่อยาเสพติด

ขณะตำรวจชุดจับกุมระบุว่า ก่อนหน้านี้เข้าทำการตรวจสอบเพื่อจับกุมหลายครั้ง แต่ไม่สามารถจับกุมได้เพราะไม่มีหลักฐาน เชื่อว่าน่าจะมีคนคอยช่วยเหลือ จนมีชาวบ้านร้องเรียนไปยังภาค 8 จึงรวบรวมเอกสารหนังสือรองเรียนทั้งหมดประกอบคำรองขอหมายค้นจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชจนสามารถจับกุมได้ดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและนักการเมืองระดับชาติโทรศัพท์ไปหานายตำรวจระดับสูงคนหนึ่งเพื่อขอเคลียร์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สนใจ เพราะปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องไม่สามารถยอมกันได้ และทางผู้บังคับบัญชากำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีการละเว้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน