มอดไม้เหิมเกริม บุกรุกพื้นที่แผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่สุก-แม่สอย ตัดไม้หวงห้าม กว่า 100 ท่อน เสียหายหนัก
เมื่อวันที่ 15 ก.ย.66 ที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สุก-แม่สอย เหนือหมู่บ้านดินดำ หมู่ 3 ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ โดยการอำนวยการของ นายสมศักดิ์ สกุลวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง นายจิตกร ศรีจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและป้องกันไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง กำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ลป.7 (แม่สอย)
และกำลังตำรวจ บก.ปทส. ภายใต้การอำนวยการการสั่งการของ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.ต.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้จังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองปาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แจ้ซ้อน เข้าทำการตรวจยึดไม้หวงห้ามที่ถูกตัดเป็นท่อนแล้วกว่า 100 ท่อน ทั้งไม้สัก ไม้ประดู่
พร้อมกันนี้ได้ตรวจยึดพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุก จำนวน 7-1-48 ไร่ ค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 502,959 บาท ไม้สักท่อน จำนวน 115 ท่อน ปริมาตร 12.86 ลบ.ม.ค่าเสียหายของรัฐ เป็นเงิน 771,600 บาท ไม้หวงห้าม (ประดู่) จำนวน 32 ท่อน ปริมาตร 7.38 ลบ.ม.ค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 258,300 บาท รถยนต์กระบะ 2 คันที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะนำของกลางไปเก็บรักษาที่ หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ลป.7 (แม่สอย) อ.เมืองปาน จ.ลำปาง พร้อมเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาที่ สภ.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิด พ.ร.บ.สงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 – มาตรา 14 ฐาน”ร่วมกัน ทำไม้ ยึดถือครอบครอง ทำไม้ ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต”
กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 -มาตรา 54 ฐาน “ร่วมกันทำไม้ ก่อสร้าง แผ้วถางป่า เผาป่าหรือทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่า ยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” -มาตรา 11 ฐาน”ร่วมกัน ทำไม้ หรือทำด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต” -มาตรา 69 ฐาน”มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่มีรูปรอยดวงตราค่าภาคหลวง หรือรัฐบาลขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ การเข้าจับกุมและตรวจยึดของกลางเจ้าหน้าที่สืบทราบข่าวเชิงลึกว่ามีกลุ่มนายทุนและมีผู้มีอิทธิพล เข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่าและตัดต้นไม้หวงห้ามอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จนกระทั่งนำกำลังเข้าตรวจสอบและพบการกระทำผิดจริง ส่วนกลุ่มผู้กระทำผิดได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง ซึ่งเจ้าหน้าที่มีเบาะแสข้อมูลแล้วคาดว่าน่าจะสืบสวนติดตามตัวมาให้ปากคำเพื่อดำเนินคดีต่อไป
