รองสารวัตร ใกล้เกษียณ ขับเก๋งพุ่งชนท้ายรถ 10 ล้อจอดข้างทาง ไฟลุกพรึ่บเผาวอดทั้งคัน ริมถนนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือวุ่น
วันที่ 22 ก.ย.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ครบุรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุรถเก๋งชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ไฟลุกไหม้ บริเวณถนนครบุรี-เสิงสาง หน้าร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ต.แชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนมัธยมครบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ชีพโรงพยาบาลครบุรี และกู้ภัยฮุก 31 โคราช จุดครบุรี
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 10 ล้อ ทะเบียน 86-7289 นครราชสีมา จอดอยู่ริมทาง ด้านท้ายฝั่งขวามีรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน กบ5094 บุรีรัมย์ พุ่งชนอย่างแรงจนเป็นเหตุให้ด้านหน้ารถเก๋งมุดเข้าไปด้านท้ายของรถบรรทุก เป็นเหตุให้ไฟลุกไหม้รถเก๋ง ก่อนที่เปลวไฟจะลามไปไหม้ผ้าใบคลุมรถบรรทุก เจ้าหน้าที่เร่งนำรถน้ำจากเทศบาลตำบลแชะ มาช่วยฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังโหมไหม้รถเก๋งอย่างรุนแรง ไม่ให้ลามไปไหม้รถบรรทุกมากกว่านี้
พร้อมกับให้กู้ภัยช่วยปิดเส้นทางเดินรถเป็นการชั่วคราว และกันประชาชนออกห่างจากจุดเกิดเหตุ หวั่นน้ำมันเชื้อเพลิงจะทำให้เกิดการระเบิดรุนแรงขึ้น โดยใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่รถเก๋งคันประสบเหตุก็ไฟไหม้เสียหายทั้งคัน
ส่วนคนขับรถเก๋งชื่อ ร.ต.ท.สมพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) รองสารวัตร(ปราบปราม) สภ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ อายุย่าง 60 ปี ใกล้จะเกษียณอายุราชการในสิ้นเดือนก.ย.นี้ โชคดีที่คนขับรถเก๋งบาดเจ็บเล็กน้อย มีบาดแผลจากกระจกบาดตามร่างกายและเจ็บที่บริเวณต้นคอ ยังสามารถสื่อสารได้รู้เรื่อง พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์จึงช่วยนำออกจากตัวรถได้ทัน ซึ่งกู้ชีพได้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลครบุรีแล้ว
จากการสอบถามคนขับรถบรรทุก 10 ล้อ กล่าวว่า ขับรถมาตามเส้นทางและรู้สึกปวดปัสสาวะ จึงนำรถเข้าจอดข้างทางตรงหน้าร้านคาราโอเกะที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ และหลังจากทำธุระเสร็จจึงปีนขึ้นรถ กำลังจะปิดประตู ก็ได้ยินเสียงรถมาชนท้ายดังสนั่น จึงรีบลงไปดู พบว่าเป็นรถเก๋งคู่กรณีมาพุ่งชนท้ายรถบรรทุกของตน
คนขับรถบรรทุก กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นเห็นคนขับรถเก๋งได้รับบาดเจ็บ และได้กลิ่นน้ำมันรถคละคลุ้งไปทั่ว จึงตะโกนเรียกพนักงานร้านคาราโอเกะให้มาช่วยนำร่างคนขับออกมาจากตัวรถโดยเร็ว ไม่นานไฟก็ลุกท่วมบริเวณห้องเครื่องของรถเก๋ง ก่อนจะลามไหม้รุนแรงดังกล่าว
พนักงานสอบสวนสันนิษฐานเบื้องต้นว่า คนขับรถเก๋งน่าจะขับมาตามเส้นทางและถนนมืด จึงทำให้มองไม่เห็นรถบรรทุกที่จอดอยู่ริมทาง ทำให้พุ่งชนเข้าอย่างจัง ทั้งนี้ จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงและตรวจร่องรอยที่เกิดเหตุ พร้อมกับจะสอบปากคำคนขับรถบรรทุก 10 ล้อ และคนขับรถเก๋งหลังอาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว เพื่อนำไปประกอบสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป