หนุ่ม 18 นัดสาวเที่ยวผับ เมานิดหน่อย เดินเซชนกลุ่มวัยรุ่น ถูกรุม 10 ต่อ 1 ดั้งจมูกหักสลบคาที่ แม่เดือด ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด ไหว้ขอโทษแล้ว ยังทำกันขนาดนี้

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 2 ต.ค.2566 นางอาวรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ชาวตำบลนาดี อ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย น.ส.มะลิวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ย่าและแม่บุญธรรม นำ นายกฤษฎา (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ผู้บาดเจ็บ เดินทางพบตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ปากคำและรายละเอียด

หลังถูกกลุ่มวัยรุ่น 10 คน รุมทำร้ายร่างกายจนสลบ บาดเจ็บดั้งจมูกหัก หลังแจ้งความดำเนินคดีวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อประสานขอดูกล้องวงจรปิดของทางผับ และบริเวณใกล้เคียงในที่เกิดเหตุ เพื่อนำมาเป็นหลักฐานดำเนินคดี เหตุเกิดเวลา 23.30 น.วันที่ 29 ก.ย.บริเวณลานจอดรถหน้าผับแห่งหนึ่ง ถนนทองใหญ่ เขตเทศบาลนครอุดรธานี

นายกฤษฎา ให้การว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนนัดพบกับหญิงสาว ที่รู้จักและพูดคุยทางเฟซบุ๊กมาเที่ยวที่ผับนี้ ขณะที่ตนกำลังจะเดินออกมาจากร้านเพื่อกลับบ้าน ซึ่งก็มีอาการเมานิดหน่อย แล้วเดินเซไปชนโต๊ะข้างๆ ทำให้แก้วน้ำบนโต๊ะตกลงพื้น จากนั้นตนก็เดินไปชนกับวัยรุ่นอีกกลุ่ม แต่ตนก็ขอโทษ แล้วก็เดินออกมา

ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คนคงจะไม่พอใจ เดินตามออกมารุมทำร้ายตน จากหน้าร้านไปจนถึงหน้าห้องน้ำ จนตนสลบมารู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่โรงพยาบาล ตนเคยไปเที่ยวผับนี้แล้ว 1 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องอะไร อยากเอาเรื่องกับวัยรุ่นกลุ่มนี้ให้ถึงที่สุดให้ตำรวจจัดการให้ด้วย

ด้าน น.ส.มะลิวัลย์ ให้การว่า กลางดึกคืนนั้นทางโรงพยาบาลโทรศัพท์มาหาย่า บอกว่านายกฤษฎา ถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัส ให้ญาติมาพบที่โรงพยาบาลด่วน จะได้ผ่าตัดจมูก เพราะจมูกหักให้ญาติมาเซ็นเอกสารผ่าตัดในเช้าวันต่อมา

ก่อนเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งนายกฤษฎา ได้บอกให้ทราบว่าไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง อยู่แถวถนนทองใหญ่ โดยไปคนเดียว เพราะนัดเจอกับเพื่อนสาว ในเมื่อลูกชายทำผิด เขาขอโทษแล้ว ก็ยังมารุมตีทำร้ายร่างกายจนสลบ ถ้าโรงพยาบาลไม่โทรศัพท์มาบอกตนก็ไม่รู้เรื่อง อาการก็ถือว่าหนักมาก จมูกหัก และยังอาเจียนเป็นเลือดด้วย

“ตนจะเอาเรื่องกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด อยากให้ออกมายอมรับกับการกระทำ และรับผิดชอบในเรื่องนี้ อยากให้มาคุยกัน อยากถามว่ายกมือไหว้ขอโทษแล้ว ทำไมถึงมาทำกันจนถึงขนาดนี้ด้วย 10 คนรุมคนเดียว ขนาดสลบแล้วก็ยังจะทำอีก ซึ่งไม่ได้โวยวายหรือหาเรื่องก่อน ลูกชายทำงานเป็นลูกจ้างร้านบะหมี่ เป็นคนขยันทำงานไม่ค่อยได้ไปเที่ยวผับ ทำงานหาเงินเลี้ยงยาย เป็นคนนิสัยดี ตนก็ไม่คิดว่าจะถูกรุมทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บขนาดนี้”








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน