แม่ ลั่น เอาเรื่องถึงที่สุด ครูกระชากคอ ลูกชาย ม.2 หงายท้องจากเก้าอี้ ซัดทำเกินกว่าเหตุ เพื่อน เปิดแชท ถูกบังคับให้ไปเป็นพยานด้วย
วันที่ 5 ต.ค.2566 ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร นางสาทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี แม่ของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ได้นำคลิปความยาว 20 วินาที ให้ผู้สื่อข่าวดูถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ลูกชายของตนกำลังเรียนคาบวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยมี นายบรรเลง (ขอสงวนนามสกุล) เป็นครูประจำวิชาดังกล่าว
แม่ ลั่น เอาเรื่องถึงที่สุด ครูกระชากคอ ลูกชาย ม.2 หงายท้องจากเก้าอี้ ซัดทำเกินกว่าเหตุ เพื่อน เปิดแชท
จากคลิปเหตุการณ์ ครูได้เดินเข้ามาล็อกคอด้านหลัง และกระชากเก้าอี้ที่นั่งอยู่จนนักเรียนชายล้มฟาดหงายหลังลงกับพื้นอย่างแรง โดยเด็กชายได้ลุกขึ้นและถามครูกลับไปว่า “ครูทำอย่างนี้ได้ไงละ ผมจะทำงาน” ครูได้ตอบกลับไปว่า “ก็เอ็งไม่ทำงาน” เด็กตอบกลับไปอีกว่า “ก็ผมกำลังทำนี่ไง” และครูตอบกลับว่า “ถ้าเอ็งจะทำให้ไปนั่งที่โต๊ะ”
หลังจากนั้นก็มีเพื่อนผู้หญิงพาเด็กชายออกไปนอกห้องเพื่อไปสงบสติอารมณ์ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ด.ช.เอก็ได้โทรหาผู้ปกครองให้ทราบเรื่อง ซึ่งพอผู้ปกครองทราบเรื่องและเห็นคลิปที่ลูกส่งให้ดู ก็ได้เดินทางเข้ามาที่โรงเรียนทันทีเพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับครูในโรงเรียนว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เมื่อนางสาทิพย์ และ น.ส.เพชรลดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี พี่สาว เดินทางมาถึงโรงเรียนพร้อมกับเข้าไปห้องปกครองเพื่อสอบถามกับครูฝ่ายปกครองถึงเรื่องดังกล่าวว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงทำรุนแรงกับเด็กขนาดนี้
ซึ่งครูประจำวิชาก็ไม่ยอมรับว่าได้ทำรุนแรงกับเด็ก จนสุดท้ายเห็นคลิปที่ผู้ปกครองเอาให้ดู ถึงกับนิ่งเงียบไป ซึ่งครูผู้ก่อเหตุได้เรียกเด็กนักเรียนหญิง จำนวน 4 คนในชั้นเรียนเดียวกันเข้ามาเป็นพยานว่าตนได้พูดตักเตือนให้ทำงานแล้วหลายครั้ง แต่ด.ช.เอไม่เชื่อฟัง จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำรุนแรง โดยผู้ปกครองไม่เชื่อคำพูดของครูและเพื่อนผู้หญิงที่เข้ามาเป็นพยาน
ขณะนั้นลุงของด.ช.เอได้เดินทางเข้ามาถึงห้องปกครองพอดี ได้มีการตะโกนด่าครูอย่างรุนแรง หลังจากนั้นได้พาด.ช.เอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพรานกระต่าย และลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ ที่ สภ.พรานกระต่าย ตนเองได้พูดคุยกับคนในครอบครัวและญาติพี่น้องว่าไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนคนอื่นอีก
ซึ่งได้นำคลิปหลักฐานที่เพื่อนในชั้นเรียนถ่ายไว้และในโซเชียลก็มีการแชร์ออกไปมากมาย ในเพจ “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” โดยได้วิจารณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าการกระทำของครูทำเกินกว่าเหตุหรือไม่อย่างไร แม้เด็กจะมีพฤติกรรมเกเรก็ไม่ควรทำแบบนี้ พร้อมนำเรื่องดังกล่าวร้องกับสื่อขอความเป็นธรรม
ขณะที่ ด.ช.เอ ได้นำเเชทเฟซบุ๊กของเพื่อนให้ดูบอกว่า “ขอโทษ ถูกบังคับให้พูด” ซึ่งเพื่อนที่เข้าไปไม่เห็นเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ครูให้เข้าไป ขณะที่ทางโรงเรียนและต้นสังกัดจะชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่ 5 ต.ค.นี้
นางสาทิพย์ กล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุตนกำลังเลี้ยงควายอยู่ในทุ่งนา ลูกชายโทรมาบอกกับตนว่าถูกครูทำร้าย ตนจึงรีบโทรบอกลูกสาวคนโตให้พาไปโรงเรียนเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร ขณะนั้นลูกชายได้ส่งคลิปเหตุการณ์ที่ถูกครูทำร้ายให้ดู ตนตกใจมากทำไมครูถึงทำรุนแรงขนาดนี้ ซึ่งขณะอยู่ในห้องปกครองครูคนดังกล่าว ก็ไม่ยอมรับว่าตนเองทำรุนแรงกับลูกชายตน โดยตนได้นำคลิปเหตุการณ์ให้ครูดูซึ่งก็นิ่งเงียบไปไม่พูดใด ๆ
นางสาทิพย์ กล่าวต่อว่า ตนตัดสินใจพาลูกไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก ซึ่งตนกลัวว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่เป็นธรรมกับลูกชาย และหากเกิดขึ้นกับลูกของคนอื่นและหนักกว่านี้จะรับผิดชอบไหวไหม ซึ่งยังไม่ได้รับคำขอโทษจากปากของครูคนดังกล่าวแต่อย่างใด มีเพียงสถานศึกษาส่งคณะกรรมการมาพูดไกล่เกลี่ยขอให้ครูเข้ามาขอโทษ แต่ตนยังไม่พร้อม
นางสาทิพย์ กล่าวอีกว่า โดยส่วนตัวคงไม่ยอมความ เพราะหากลูกชายเป็นอะไรไปมากกว่านี้จะรับผิดชอบไหวไหม หากมีคนสอนอยู่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับนักเรียนคนอื่นไหม คือทำผิดแล้วจะมาขอโทษไหว้สวยรวยกระเช้ามันก็ไม่ใช่ อยากให้ต้นสังกัดดำเนินการไปตามวินัย และตนก็คงต้องดำเนินไปตามกฎหมายเพื่อขอความยุติธรรม
นางสาทิพย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนหลายคนบอกว่าลูกชายตนเป็นคนก้าวร้าวนั้น อันนี้ไม่จริง แต่เป็นการเกเรตามประสาเด็กผู้ชายทั่วไป ตนก็ไม่ได้บอกว่าลูกชายตนเป็นคนดี นี่ขนาดครูตีลูกชายยังไม่สวนกลับ อยากให้ทางโรงเรียนชี้แจงว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ด้าน ด.ช.เอ กล่าวว่า วันเกิดเหตุได้เข้าเรียนวิชา IS ครูแบ่งกลุ่มให้ทำงานกันในห้องเรียน ซึ่งตนไม่ค่อยเก่งเรื่องการเรียน ก็ทำได้เท่าที่ทำได้ เลยนั่งรอลอกงานจากเพื่อน โดยใช้โทรศัพท์ค้นหางานเพราะมีงานหลายข้อ จู่ ๆ ครูก็เดินมาข้างหลังและกระชากล็อกคอตนหงายหลังลงไปกับพื้น ตนก็ถามว่า “ทำผมทำไม” และครูก็ไล่ตนออกจากห้อง
ด.ช.เอ กล่าวต่อว่า ตนตกใจว่าทำไมครูทำรุนแรงขนาดนี้ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกับครูมาก่อน หลายคนบอกว่า “ผมเป็นคนก้าวร้าว” จริง ๆ แล้วก็มีเกเรบ้างแต่ก็ไม่ได้หาเรื่องใครก่อน เพื่อนในชั้นเรียนก็เล่าให้ฟังว่า เคยถูกครูคนดังกล่าวทำร้ายแบบนี้เหมือนกัน ตั้งแต่เกิดเหตุก็ยังรู้สึกเจ็บบริเวณต้นคอถึงหัวอยู่ อยากขอความเป็นธรรม หากหัวฟาดน็อกพื้นไปจะรับผิดชอบไหวไหม ทั้งนี้ ไม่ได้มีความขุ่นเคืองหมองใจอะไรกับครู มองว่าครั้งนี้ครูทำเกินกว่าเหตุกับตนจริง ๆ
