รมช.ไชยา สั่ง อ.ส.ค.พลิกโฉมยกระดับธุรกิจเพิ่มผลกำไร วางเป้าไกลเข้าตลาดหลักทรัพย์
พร้อมแจ้งข่าวดีเกษตรกร ส่งเรื่องเพิ่มราคารับซื้อน้ำดิบเข้าครม.แล้ว

9 ต.ค. 66 – เวลา 10.00 น. นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษา ได้เดินทางไปยังองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนด้านอุตสาหกรรมนม พร้อมเยี่ยมชมโรงงานผลิตภัณฑ์นม อ.ส.ค. มวกเหล็ก, ฟาร์มประสิทธิภาพสูง, ฟาร์มท่องเที่ยวเชิงเกษตร อ.ส.ค. และตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ค(มิตรภาพ) จำกัด อำเภอมวกเหล็ก

ในการนี้ นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ ประธานบอร์ด อ.ส.ค.กล่าวต้อนรับ นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการ อ.ส.ค. ได้บรรยายสรุปผลการดำเนินงานของ อ.ส.ค. โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

นายไชยา กล่าวว่า อาชีพการเลี้ยงโคนม ถือเป็นอาชีพพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 9 และทรงมีความมุ่งมั่นที่จะให้อาชีพการเลี้ยงโคนมเป็ยอาชีพที่สร้างความมั่นคงให้แก่เกษตรกร ซึ่ง อ.ส.ค.เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญ ซึ่งการดำเนินงานของ อ.ส.ค. นับจากนี้ไป ต้องมีการบริหารแบบมืออาชีพทั้งด้านการดำเนินธุรกิจ และการส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกร อยากให้ผู้บริหารได้คิดนอกกรอบ ในการพัฒนา อ.ส.ค.

ซึ่งได้สั่งการให้ อ.ส.ค. ได้มีมีการจัดทำแผนธุรกิจเชิงรุกที่ช่วยเพิ่มรายได้ สร้างส่วนแบ่งการตลาดให้เพิ่มขึ้น รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีมูลค่าสูง ยกระดับการทำตลาดไปสู่ตลาดบน อีกทั้งเป้าหมายในระยยาวที่จะผลักดันให้ดำเนินการคือการนำอ.ส.ค.เข้าสู่ลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะนำประโยขน์มาสู่ อ.ส.ค.โดยเฉพาะด้านการระดมทุน

“ขณะเดียวกัน ต้องช่วยเหลือเกษตรกร แก้ปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนค่าอาหารสัตว์ โดยนอกจากให้อ.ส.ค.ได้เร่งดำเนินการแล้ว ตนเองจะดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เช่น การสนับสนุนให้มีการทำคอนแทรกฟาร์มมิ่งระหว่างสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมกับสหกรณ์ที่เป็นผู้ผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สำคัญ เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าวัตถุดิบ และขอแจ้งข่าวไปยังเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งเรื่องขึ้นราคาน้ำนมดิบตามมิติขิงมิลบอร์ดอีกกิโลกรัมละ 3.75 บาท เพื่อสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว รอเพียงการนำเสนอเข้าวาระการประชุมในเร็ว ๆ นี้”นายไชยา กล่าว

นายไชยา กล่าวอีกว่า แบรนด์ตราวัวแดงของ อ.ส.ค.ถือเป็นที่คนไทยให้การยอมรับและรู้จักกันเป็นอย่างดี อีกทั้งผลิตภัณฑ์ต่สง ๆ จะเน้นการใช้น้ำนมแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงยังมีศักยภาพในการทำตลาดได้อีกมาก รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้ทรัพยากรที่อ.ส.ค.มีอยู่ มาสร้างมูลค่า เช่น การพัฒนาด้านท่องเที่ยวเชิงเกษตร เกี่ยวกับอาชีพการเลี้ยงโคนม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆเข้าสู่ตลาดระดับบนเพื่อเพิ่มมูลค่า เพิ่มรายได้ให้กับ อ.ส.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน