ชาวบ้านวอน ปลดล็อกนกกรุงหัวจุก จากสัตว์ป่าคุ้มครอง ย้ำกฎหมายเดิมไม่ทันสมัย ต้องเปลี่ยนแปลง พร้อมนำคน ตบเท้าเข้ากรุงเทพ ให้ทบทวนข้อเสนอนี้
วันที่ 14 ต.ค.2566 นายอัสหาด หลังจิ อดีต ประธานชมรมนกกรงหัวจุกสตูล เรียกร้องการปลดล็อกนกกรุงหัวจุก ออกจกสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมองว่าการขึ้นทะเบียนนกกรุงหัวจุกเป็นเรื่องยุ่งยาก และกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงนกกรงหัวจุกจังหวัดสตูล เตรียมพร้อมขึ้นไปกรุงเทพ เพื่อเรียกร้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนการยื่นเรื่องข้อเสนอในครั้งนี้
นายอัสหาดเผยว่า กฎหมายเดิมไม่ทันสมัย ต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้ดีกว่านี้ การเพาะเลี้ยงนกกรุงหัวจุกนั้น เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ ที่ดีแก่คนเพาะอีกด้วย
นายสักรินทร์ อังวรโชติ อายุ 38 ปี หนึ่งในผู้เพาะเลี้ยงนกกรุงหัวจุก กล่าวเพิ่มเติมว่า นกกรุงหัวจุก เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ดี นิยมเพาะเลี้ยงกัน แต่เมื่อกฎหมายเข้มงวดก็ลำบาก และมีผลกระทบกับทางกลุ่มเพาะเลี้ยงมาก จึงฝากให้ทางกรมอุทยานแห่งชาติ ได้ทบทวนข้อเรียกร้องในครั้งนี้
ส่วนกรณีคนไปดักจับนกกรุงหัวจุกในป่า ก็ควรจับมาลงโทษขั้นเด็ดขาด แต่ก็ควรมองถึงกลุ่มเพาะเลี้ยง ที่ต้องการทำเรื่องขึ้นทะเบียนนกกรุงหัวจุกให้ง่าย และสะดวกกว่าที่ผ่านมา
สำหรับหรับนกกรงหัวจุก หรือ นกปรอดหัวโขน เป็นนกที่มีสีสันสวยงาม มีเสียงอันไพเราะ จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่ชอบสัตว์เลี้ยงเพื่อฟังเสียง และได้มีการประกวดเสียงร้อง เช่นเดียวกับนกเขาชวา ในปัจจุบันนกกรงหัวจุก จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกนก ลำดับที่ 550 ตามกฎกระทรวงกำหนด ให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ห้ามล่า หรือจับมาจากธรรมชาติ
แต่กฎหมายเปิดโอกาสให้เพาะพันธุ์ในกรงเลี้ยงได้ แต่ยังมีผู้เพาะเลี้ยงที่ไม่ได้รับอนุญาตจำนวนมาก เนื่องจากมีขั้นตอนการขออนุญาตหลายขั้นตอน ต้องใช้หลักฐานหลายอย่าง และต้องลงทุนสูง
