ตำรวจศาลฉุน เพื่อนบ้านเปิดเพลงเสียงดัง คว้าปืนยิงดับในงานแต่ง ต่อหน้าลูก 7 ขวบ เผยกำลังแต่งตัวไปกินเลี้ยงงานแต่ง แต่ถูกยิงก่อน ญาติหวั่นทำคดีไม่เป็นธรรม
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.66 พ.ต.ท.ประมาณ ปลาทอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิประชานุกูลราชบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังรับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า เกิดเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่หน้าท้องในงานแต่งงาน อาการสาหัส ที่บ้านงานแต่ง ใน อ.เมือง จ.ราชบุรี เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
โดยที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูลราชบุรี เร่งนำตัว นายเกมวุตส์ อายุ 38 ปี นำตัวส่งโรงพยาบาลราชบุรี ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา สภาพที่เกิดเหตุพบร่องรอยของงานเลี้ยง มีชุดเครื่องเสียง โต๊ะจีน และรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ 2 คัน ท่ามกลางเสียงญาติที่อยู่ในงาน ที่เต็มไปด้วยอาการความเศร้าโศกเสียใจ ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ ร.ต.ต.สนธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลจังหวัดราชบุรี ถูกคุมตัวไปที่ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อสอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า วันนี้ทางบ้านที่เกิดเหตุจัดงานแต่งงานตั้งแต่เช้า มีการประกอบพิธีต่างๆ จนช่วงค่ำก็จัดงานเลี้ยงที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี โดยที่นายเกมวุตส์ ผู้ตาย นั่งดื่มเครื่องดื่มอยู่บริเวณหน้าบ้านและเปิดเพลง ขณะที่นายเกมวุตส์ยืนอยู่หน้าบ้านกับลูกชาย เพื่อรอภรรยาแต่งตัวเตรียมไปกินเลี้ยงงานแต่งที่โรงแรมที่จัดงานไว้ ร.ต.ต.สนธยาก็ควักปืนลูกโม่ยิงใส่เข้าที่บริเวณหน้าท้อง
เมื่อนายเกมวุตส์ถูกยิงก็ตะโกนบอกถูกยิง และวิ่งไปชนรถจักรยานยนต์ ก่อนจะวิ่งไปล้มบริเวณใต้ถุนบ้าน และคลานเข้าห้อง ส่วน ร.ต.ต.สนธยาก็เดินเข้าบ้านไป จนเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมพร้อมยึดอาวุธปืนไปตรวจสอบ และคุมตัวไปสอบสวนที่สภ.เมืองราชบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถาม ด.ช.อายุ 7 ขวบ ซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิตที่อยู่ด้วยขณะเกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ผู้ก่อเหตุพกปืนทางซ้าย จากนั้นก็ควักปืนขึ้นมายิงเข้าที่ด้านหน้า ขณะที่พ่อยังไม่ทันตั้งตัว พอถูกยิงก็ตั้งสติแล้วก็วิ่งหนีไปชนจักรยานยนต์คันสีน้ำเงิน ก่อนล้มลงไปนอนกับพื้น
ทั้งนี้ญาติยังบอกผ่านทางผู้สื่อข่าวอีกว่า หวั่นใจกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคนยิงก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และญาติก็เป็นรอง ผกก.อยู่ที่จังหวัดนครปฐม และเกรงว่าทางตำรวจจะไม่ทำคดีให้อย่างเป็นธรรม ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าน่าจะมาจากเปิดเพลงเสียงดังในงาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนหาสาเหตุอีกครั้ง
ที่มา มติชนออนไลน์
