มือปืน ควงเมียบุกสางแค้นแทนพี่สาว ยิงเบ้าตาหนุ่มใหญ่กลางบ่อดิน

มือปืน ควงเมียบุกสางแค้นแทนพี่สาว ยิงใส่เบ้าตาหนุ่มใหญ่กลางบ่อดิน ในพื้นที่ จ.นครปฐม ก่อนขับจักรยานยนต์หลบหนี เผยนาทีลงมือเหี้ยม ตำรวจเร่งล่าตัว

เมื่อเวลา 07.20 น. วันที่ 29 ต.ค.2566 พ.ต.อ.ทินกร รังรื่น ผกก.สภ.ดอนตูม รับแจ้งเหตุยิงกันบริเวณบ่อดิน สิงห์ต้นสำโรง ม.7 ต.ดอนพุทรา อ.ดอนตูม จ.นครปฐม หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

มือปืน ควงเมียบุกสางแค้นแทนพี่สาว ยิงใส่เบ้าตาหนุ่มใหญ่กลางบ่อดิน ในพื้นที่ จ.นครปฐม ก่อนขับจักรยานยนต์หลบหนี

ที่เกิดเหตุเป็นบ่อดิน พื้นที่ประมาณ 150 ไร่ พบรถสิบล้อ ทะเบียน 90-3718 นครปฐม ยี่ห้ออีซูซุ ด้านหน้าติดว่า “สิงห์ต้นสำโรง” กำลังรับดินจากรถแบคโฮเพื่อนำดินใส่รถบนตาชั่ง ด้านข้างมีกองเลือด ตรงแผ่นไม้กระดาน พบผู้ถูกยิงชื่อ นายนพคุณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี สภาพถูกยิงเข้าที่เบ้าตาด้านซ้ายทะลุศีรษะด้านหลัง เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาล

จากการสอบถาม นายประพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายมนต์ ขับรถจักรยานยนต์เดินทางมาพร้อมกับภรรยาที่บ่อดินดังกล่าว โดยมานั่งบริเวณโต๊ะม้าหินที่นายประพัฒน์นั่งอยู่ นายประพัฒน์ได้สอบถามว่ามาทำไม นายมนต์บอกว่ามาเที่ยวเฉย ๆ นั่งอยู่ 3-4 นาที นายประพัฒน์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

นายประพัฒน์ กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้น นายมนต์ได้เดินไปยังตาชั่งที่แบคโฮตักดินใส่รถ 10 ล้ออยู่ ได้ควักปืนไม่ทราบขนาด ยิงนายนพคุณเข้าที่ตาด้านซ้ายทะลุท้ายทอยบาดเจ็บสาหัส นางรัชนี (ขอสงวนนามสกุล) เสมียนที่อยู่ในตู้คอยขายดิน ได้ยินเสียงปืนแล้วรีบวิ่งออกมา พบนายนพคุณถูกยิงบาดเจ็บสาหัส นอนจมกองเลือดที่บริเวณด้านหน้าตู้จ่ายบิล

นายประพัฒน์ กล่าวอีกว่า ได้พยายามบอกนายนพคุณผู้ถูกยิงว่าอย่าหลับ กำลังเรียกรถพยาบาลมารับตัวไปส่ง ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่ารถพยาบาลจะมารับเนื่องจากเป็นบ่อดิน การเดินทางเป็นไปอย่างทุลักทุเล สามารถนำตัวส่งโรงพยาบาลดอนตูมในเวลาต่อมา

ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวคนร้าย 2 คนที่ก่อเหตุมาดำนเนินคดี ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้บาดเจ็บก่อนหน้านี้มีปัญหาบาดหมางกับพี่สาวของมือปืน จากนั้นพี่สาวของมือปืนได้ไปฟ้อง ทำให้มือปืนได้กลับมาจัดการปัญหาดังกล่าว