พ่อ-แม่”น้องชมพู่” กลับบ้านกกกอด ใช้ชีวิตตามปกติวิถีชาวสวน เลี้ยงแพะ กรีดยาง ยันไม่ได้โยนความผิดให้ป้าแต๋น ชี้ทุกอย่างอยู่ที่ตำรวจทำตามหลักฐาน เตรียมทำบุญให้ลูกสาว
วันที่ 1 พ.ย.2566 ผู้สื่อรายงานความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ หลังศาลจังหวัดมุกดาหาร เลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ เป็นวันที่ 20 ธ.ค.นี้ โดยวันนี้ พ่อกับแม่น้องชมพู่ เดินทางกลับมายังที่บ้านกกกอดใช้ชีวิตตามวิถีชาวสวนอย่างที่เคยเป็นอีกครั้ง
โดยช่วงเย็นพ่อน้องชมพู่ไปให้อาหารแพะที่เลี้ยงไว้ 15 ตัวที่บ้านสวน จากนั้นทั้งพ่อและแม่เข้าสวนยางพารากรีดยาง พร้อมบอกว่าการมาใช้ชีวิตตามฉบับวิถีเดิม ค่อนข้างสบายใจเพราะทุกอย่างดูสงบไม่ต้องวุ่นวายกับใคร
แม่น้องชมพู่ บอกด้วยว่า แม้อาชีพเดิมก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการขายผ้าทางออนไลน์มากกว่า เพราะตอนนั้นอยากจะหารายได้เพิ่มเพื่อไว้สำหรับใช้จ่าย เนื่องจากระหว่างที่กำลังต่อสู้คดีมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ทั้งค่าเดินทางไปศาลเพื่อสืบพยาน ค่าที่พัก ค่าเดินทาง และค่าจิปาถะอีกมากมาย ตอนนี้คดีของน้องสิ้นสุดกระบวนการสืบพยานแล้ว
“หลังจากนี้คาดว่าคงมีค่าใช้จ่ายอีกไม่มากเหมือนที่ผ่านมา จึงกลับมาใช้ชีวิตวิถีเดิมที่เป็นชาวสวน แต่ยังไม่ทิ้งการขายของออนไลน์ กลับกันก็ยังยอมรับว่าอาจจะมาใช้เวลากับสวนมากกว่าการขายผ้า เพราะการเข้ามาในสวนมันมีความสบายใจมากกว่า ไม่ต้องไปวุ่นวายกับใคร และเป็นอาชีพที่ทำมานานแล้ว”
แม่น้องชมพู่ บอกอีกว่า ส่วนเรื่องทนายฝั่งจำเลยออกมาแถลงข่าว โดยเฉพาะกรณีที่สุนัขหรือเจ้าปลาส้มนำน้องขึ้นไปยังภูเหล็กไฟก่อนจะเสียชีวิต ส่วนตัวมองว่าไม่ได้มีประจักษ์พยานที่เห็น จึงไม่ได้มีความกังวลใจอะไร ยังเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน อีกทั้งตอนนี้สิ้นสุดกระบวนการสืบพยานไปแล้ว ดังนั้นการที่ออกมาแถลงก็ต้องบอกว่าไม่ได้มีผลต่อรูปคดีแล้ว
ส่วนกรณีดราม่าที่หลายคนเข้ามาคอมเมนต์เรื่องการแถลงข่าวของพ่อแม่น้องชมพู่ นำไปเปรียบเทียบกับของลุงพลและป้าแต๋นตั้งโต๊ะแถลงข่าวในห้องจัดงานของโรงแรม โดยมีแฟนคลับไปให้กำลังใจจำนวนมาก แม่น้องชมพู่บอกว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบทางจิตใจ ประกอบกับทนายของแม่ก็ไม่ได้เรียกร้องว่าจะต้องจัดแถลงข่าวในโรงแรม เพราะทนายเป็นคนค่อนข้างสมถะ ไม่ต้องกินหรูอยู่สบาย
สำหรับประเด็นที่วันนี้ป้าแต๋นออกมาพูดว่า เข้าใจว่าครอบครัวเป็นผู้สูญเสียน้องชมพู่ไป ยืนยันว่า ป้าแต๋นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้เป็นคนทำให้ชมพู่เสียชีวิต ไม่เคยโยนความผิดให้ลุงพลและป้าแต๋นเลย แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เกิดจากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจจนนำไปสู่ขั้นตอนขอศาลออกหมายจับ
ตรงนี้ต้องรอให้ศาลอ่านคำพิพากษาวันที่ 20 ธ.ค.นี้ แม่บอกเลยว่าไม่ได้มีความกังวลใจใดๆทั้งสิ้น ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาเพื่อจะรอวันนั้นเพียงวันเดียว เพราะตอนนี้ได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติที่เคยเป็น และครอบครัวเตรียมทำบุญใหญ่ให้น้องชมพู่ วันที่ 26-27 พ.ย.ที่จะถึงนี้
ตอนแรกตั้งใจจะให้ศาลอ่านคำพิพากษาแล้วจัดงานบุญให้น้อง เพื่อจะบอกให้น้องไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ และบอกน้องว่า น้องได้รับความเป็นธรรมแล้ว แต่พอมาเลื่อนออกไปงานบุญของน้องก็ยังจัดเหมือนเดิมตามฤกษ์ที่หาเอาไว้แล้ว
อ่านข่าว ลุงพล-ป้าแต๋น อยากคุยกับครอบครัว น้องชมพู่ ทนายเคลียร์ทุกปมสงสัย
