ปานปรีย์ แจ้งผลหารือปล่อยตัวประกันคนไทย พบอุปสรรค ฮามาสมีหลายกลุ่ม ต้องแยกเจรจา ยัน 3 ชาติเร่งช่วยเต็มที่ ขอไทยหนุนหยุดยิง ให้คำมั่นเป็นกลุ่มแรกถูกส่งตัว ส่งจุดผ่านแดนอียิปต์ติดกาซ่า

3 พ.ย. 66 – นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเยือนกาตาร์ และอียิปต์ ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-2 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเจรจาให้ปล่อยตัวประกันคนไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้ สถานทูต รายงานถูกจับเป็นตัวประกัน 23 คน ว่า

ตนได้เยือน 2 ประเทศ พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จาก 3 ประเทศ รวมถึง นายกรัฐมนตรีกาตาร์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศด้วย โดยทั้ง 3 ประเทศกาตาร์ อิหร่าน และอียิปต์ แสดงความช่วยเหลือเต็มที่

นายปานปรีย์ กล่าวว่า ในการหารือได้สร้างความประหลาดใจให้กับตนหลายประการ ข้อแรก รัฐมนตรีหลายท่านไม่ทราบว่า คนไทยไปทำอะไรในอิสราเอล โดยคิดว่า ไปทำธุรกิจ ตั้งบริษัท ตนจึงได้ชี้แจงว่า แรงงานไทยส่วนใหญ่ทำงานในภาคเกษตร ซึ่งมาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย ทำงานที่อิสราเอล เพื่อให้มีรายได้และส่งเงินไปจุนเจือครอบครัวในไทย และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองและสงคราม ตนได้ขอให้สื่อสารประเด็นนี้ไปยังฮามาส ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า ฮามาสรู้หรือไม่ว่า แรงงานไทยที่ฮามาสจับไปเป็นตัวประกันเป็นเพียงแรงงานภาคเกษตร

นายปานปรีย์ กล่าวอีกว่า ตนหารือกับนายกและ รัฐมนตรีกาตาร์ และรัฐมนตรีจาก อีก 2 ประเทศ ได้แก่ อิหร่านและอียิปต์ เพราะว่า มีช่องทางในการสื่อสารและความสามารถในการพูดคุยกับระดับแกนนำของกลุ่มฮามาสได้ ทำให้เกิดข้อแปลกใจข้อที่ 2 คือ ตนได้ทราบว่า จริงๆ แล้ว กลุ่มฮามาสที่จับคนไทยไปไม่ได้มีกลุ่มเดียว ซึ่งทราบว่า มีฮามาสอย่างน้อย 2 กลุ่มขึ้นไป และไม่แน่ใจว่า มีฮามาสกลุ่มที่ 3 และ 4 หรือไม่ ดังนั้นการเจรจาปล่อยตัวประกันต้องแยกกันเจรจา

นายปานปรีย์ เผยอีกว่า จึงขอให้ 3 ประเทศช่วยผลักดันการเจรจา เพื่อให้ปล่อยตัวคนไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งเขาระบุว่า ช่วงนี้ยังมีการสู้รบกันอยู่และอยากให้ไทยหนุนการหยุดยิงโดยเร็ว จะทำให้มีโอกาสการปล่อยตัวประกันเร็วขึ้น และตนระบุว่า หากหยุดยิงล่าช้า จะทำให้คนไทยถูกจับเป็นตัวประกันนานขึ้นด้วย

ซึ่งตนก็กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้น อยากให้เจรจาปล่อยตัวประกันคนไทยโดยเร็วที่สุดในวันนี้ หรือพรุ่งนี้เลยยิ่งดี ซึ่งเขารับปาก โดย นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ เชื่อว่าคนไทยจะได้รับการประกันตัวเป็นกลุ่มแรก ซึ่งตนได้ฟังแล้วรู้สึกสบายใจ

สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ซึ่งเชื่อว่า มีความใกล้ชิดกับฮามาสอย่างมาก ไม่ว่ากับฮามาสกลุ่มกลุ่มใด และ รับปากจะเจรจาผลักดันให้มีการปล่อยตัวโดยเร็วอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้อิหร่านได้สื่อสารการปล่อยตัวคนไทยกับกลุ่มฮามาสแล้ว นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ไทยร้องขอ

ในส่วนของอียิปต์ ตนได้หารือและได้ร่วมรับประทานอาหารตามคำเชิญของฝ่ายอียิปต์ ซึ่งใช้เวลาหารือนานราว 1 ชั่วโมง โดยผลการหารือหลักๆ ทางอียิปต์รับปากจะช่วยหาช่องทางเพื่อสื่อสารให้มีการปล่อยตัวคนไทยโดยเร็ว ซึ่งอียิปต์รับปากว่า จะดำเนินการให้ เจ้าหน้าที่ไทย หรือทูตสามารถเข้าไปรับตัวประกันคนไทย หากมีการปล่อยตัวประกันคนไทยที่จุดผ่านแดนราฟาห์ของอียิปต์ที่ติดกับกาซา ซึ่งเป็นจุดที่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในกาซา

ทั้งนี้ ช่วงระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-2 พ.ย. นายปานปรีย์หารือกับ เชค มุฮัมมัด บิน อับดุรเราะฮ์มาน บิน ญาสซิม อาล ษานี นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัฐกาตาร์ ที่กรุงโดฮา และดร มุฮัมมัด บิน อับดุลอะซีซ อาล คุลัยฟี รัฐมนตรีแห่งรัฐกาตาร์ ร่วมการหารือด้วย ดร.ฮุซัยน์ อะมีร อับดุลลอฮิยอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ที่กรุงโดฮารัฐกาตาร์เช่นกัน

ขณะที่ทั้งสองฝ่ายเยือนกาตาร์ช่วงเดียวกันและได้พบหารือกับ นายซามิห์ ฮัสซัน ชุกรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์

วันเดียวกัน ที่ห้องบัวแก้ว กระทรวงการต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย มอบเงินบริจาคเป็นกรณีพิเศษจำนวน 3,000,000 บาท แก่สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ผ่านทาง นายจูเซปเป้ เดอ วินเซนทีส รักษาการผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย เพื่อตอบสนองต่อการร้องขอฉุกเฉินต่อเหตุความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในฉนวนกาซาของสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน