แม่คาใจ รพ.ทำลูกดับ ลั่นหากไม่รับผิดชอบ จะพาศพไปพบนายกรัฐมนตรี เตรียมย้ายที่อยู่ใหม่ ประกาศขาย หลังคนในครอบครัวดับมาแล้ว 4 ชีวิตด้วยกัน
วันที่ 12 พ.ย.2566 นางเบญจมาศ แสงมณี อายุ 43 ปี ร้องเรียนต่อสื่อ หลังลูกสาวตน น.ส.สุพรภรณ์ ปวดหลัง เข้ารับการรักษาตัวที่คลินิกแห่งหนึ่งในอ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี แพทย์ฉีดยาบรรเทปาวด ก่อนอาการทรุด ก่อนเสียชีวิตคาห้องผ่าตัดเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ทำให้คาใจอย่างมาก
ทั้งนี้ลูกตนไปรักษาตัวที่คลินิกหลังฉีดยา ได้ 1 อาทิตย์ มีการส่งตัวไปยังรพ.พระพุทธบาท เพื่อเอ็กซเรย์ พบว่าปอดยุบ เพราะรั่ว ต้องผ่าตัดใส่ท่อเอาลมออก ก่อนส่งไปรักษาตัวที่รพ.สระบุรี เพราะมีอุปกรณ์พร้อมกว่า แพทย์ได้ต่อท่อเพิ่มอีก 1 ท่อ เพื่อดูดลมจากปอด นอนรักษาตัวอยู่ 5 วัน
จากนั้นในวันที่ 31 ก.ค. ได้มีการนัดผ่าตัด ก่อนจะเสียชีวิต รพ.ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ แจ้งเพียงว่าน้องเป็นโรคหัวใจเต้นช้ารุนแรง โดยไม่เคยบอกให้ตนทราบอาการลูกมาก่อน เมื่อส่งผลชันสูตรไปยังสถาบันนิติเวช กลับมีความเห็นว่า ลูกตนหัวใจปกติ แต่เสียชีวิตจากลมปอดรั่ว
หากสาเหตุเป็นแบบนี้ตนไม่ติดใจ เพราะเขาเข้ารักษาตัวด้วยโรคนี้อยู่แล้ว ตนเลยสงสัยว่ารพ.สระบุรีวินิจฉัยว่าลูกตนเป็นโรคหัวใจได้อย่างไร หากรพ.ไม่แสดงความรับผิดชอบ ก็จะนำศพไปร้องต่อสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาว
นอกจากนี้ตนเตรียมขายที่ 48 ไร่ เพราะมีคนตายไปแล้ว 4 คน นั่นก็คือพ่อสามีตาย 2 ปีก่อน จากนั้นลูกคนเล็กก็ตายตามมา ต่อมาน้องพ่อก็มาจากไป ล่าสุดก็ลูกสาวตน เลยไม่อยากอยู่แล้ว เพราะความทรงจำในบ้านเยอะ จึงอยากย้ายไปอยู่ที่อื่น ตั้งหลักใหม่ เหลือที่แห่งนี้เป็นความทรงจำเท่านั้น
