อดีตแม่ยายจุดธูป ขอให้พบหัวอดีตลูกเขย ถูกฆ่าตัดคอ นำกางเกงเปื้อนเลือดชายผู้ต้องสงสัย ตรวจดีเอ็นเอ คุมตัวดำเนินคดีในข้อหาเสพ ส่วนหัวผู้ตายยังไม่พบ

กรณีคนร้ายฆ่าตัดหัว นายเสงี่ยม อายุ 53 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ชาว หมู่ที่ 1 ต.ตะเคียนทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และยังหาส่วนหัวไม่พบ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนการคลี่ปมสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์ สอบปากคำพร้อมเก็บดีเอ็นเอ บุคคลที่เป็นกลุ่มเพื่อนในวงสุรา และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ตายไปแล้วจำนวน 4 ปาก

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 14 พ.ย.66 ที่บ้านที่เกิดเหตุ นางละบอบ อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านและอดีตแม่ยายนายเสงี่ยม จุดธูปไหว้เจ้าที่บริเวณหน้าบ้าน เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้การค้นหาส่วนศีรษะของนายเสงี่ยมที่คนร้ายนำไปด้วย ขอให้พบเจอเพื่อนำมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพที่รออยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ค้นบ้านผู้ต้องสงสัย ที่ตั้งอยู่จากจุดเกิดเหตุมาประมาณ 300 เมตร พร้อมนำตัวนายกุ้ง หรือนายวีระพงศ์ อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านมาสอบปากคำพร้อมเก็บดีเอ็นเอ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังเก็บเสื้อผ้า ของใช้ อุปกรณ์บางอย่าง และรถจักรยานยนต์ของนายกุ้งมาตรวจสอบที่ สภ.กาญจนดิษฐ์

นายไพศาล สองวิหค ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ตะเคียนทอง อ.กาญจนดิษฐ์ ระดมชาวบ้านออกค้นหาศีรษะของนายเสงี่ยม ตามเบาะแสบริเวณที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับนายกุ้ง อายุ 50 ปี ผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง และเป็นกลุ่มเพื่อนในวงสุรา ที่มีบ้านพักอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร และมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและลัทธิไสยศาสตร์บางอย่าง ซึ่งการค้นหาประสบปัญหาฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน








Advertisement

จากการสอบสวนนายกุ้งให้การปฏิเสธ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่การตรวจปัสสาวะพบสีม่วง มีสารเสพติดจึงควบคุมตัวไว้ในข้อหาเสพยาเสพติด เพื่อรอผลดีเอ็นเอจากเสื้อผ้าของนายกุ้งที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบลักษณะคราบเลือดสีแดงบนกางเกงยีนส์ที่ยังไม่ได้ซัก และพบลักษณะคราบเลือดบนเสื้อยืดคอกลมสีขาว ที่ถูกซักทำความสะอาดไปแล้ว แต่ยังหลงเหลือคราบจางๆ

จึงส่งให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 นำไปตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่จะเป็นส่วนสำคัญทางคดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งส่งตรวจพิสูจน์ว่า เป็นคราบเลือดของผู้ตายหรือไม่ ส่วนศีรษะของผู้ตายยังไม่พบ และไร้เบาะแสว่า คนร้ายจะนำไปไว้ที่ใด

นางสุภา อายุ 50 ปี ภรรยานายกุ้ง พร้อมลูกชาย เดินทางมาที่สภ.กาญจนดิษฐ์ เพื่อขอเยี่ยมนายกุ้งซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายกุ้งไปฝากขังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว เนื่องจากครบกำหนดฝากขัง

นางสุภา กล่าวว่า ยอมรับว่าสามีเสพยาเสพติดจนเกิดอาการหลอนจริง แต่ไม่ถึงขั้นเชื่อลัทธิตามที่ชาวบ้านพูด จะพูดจาเพ้อหาสมบัติไปเรื่อย เพราะครอบครัวค่อนข้างยากจน ก่อนนี้บอกกับสามีว่า ถ้าทำผิดก็ให้ยอมรับเสีย แต่อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่า สามีไม่ได้ทำ

ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ทางผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน จะออกไปค้นหายังเป้าหมายในจุดที่นายกุ้งเคยไปทำพิธี เนื่องจากนายกุ้งเป็นบุคคลที่อยู่ในข่ายสงสัยว่า จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี สำหรับพติกรรม นายวีระพงศ์ มีพฤติกรรมเสพยา มีอาการหลอนและเพี้ยนเชื่อในลัทธิบูชายันต์ แต่ในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีประวัติทำอันตรายผู้ใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน