เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีคุณยายวัย 82 ปี พายเรือขายกาแฟโบราณ ลำสุดท้ายในแม่น้ำแควอ้อม อำเภอบางคนฑี จังหวัดสมุทรสงคราม จึงเดินทางไปตรวจสอบ บริเวณแม่น้ำแควอ้อม 3 อำเภอ 2 จังหวัด ราชบุรี-สมุทรสงคราม

จนพบน.ส.เชง แซ่เฮง หรือ ยายเชง หญิงชราวัย 82 ปี ชาวบ้านปราโมทย์ อำเภอบางคนฑี จังหวัดสมุทรสงคราม แม่ค้าขายกาแฟโบราณบนเรือพายในคลองรุ่มแม่น้ำแควอ้อม 3 อำเภอ 2 จังหวัด ราชบุรี-สมุทรสงคราม ที่ยังมีสุขภาพแข็งแรงพายเรือขายกาแฟโบราณได้อย่างคล่องแคล่ว และเป็นที่รู้จักกันดีของชาวบ้านสองฝั่งคลองในลุ่มแม่น้ำแควอ้อมนี้

ยายเชง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า “เวลายายไม่มาขาย ลูกค้าเจ้าประจำเขาก็ถามหา ก็ขายมากว่า ก็เราขายมานมนานแล้ว กว่า 60 ปีแล้วนะ วันนี้รู้สึกดีใจมากที่หลานๆ ให้กลับมาพายเรือขายของอีกครั้ง เพราะเป็นอาชีพที่หล่อเลี้ยงตนเองและครอบครัวมาเกือบทั้งชีวิต นอนอยู่กับบ้านก็จะบั่นทอนให้ร่างกายล้มหมอนนอนเสื่อไปเปล่าๆ เมื่อจะเล่าย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ตนเองวัย 14-18 ปี ช่วงนั้นเรียนหนังสือไปด้วย และก็ต้องขายของไปด้วย สมัยนั้นถนนหนทางไม่สะดวกเหมือนสมัยนี้การค้าขายก็ต้องพายเรือขายภายในคลองแม่น้ำแควอ้อมพายไปตามคลองซอยที่อยู่สวน เพื่อหาเงินมาเป็นค่าเล่าเรียนและใช้จ่ายภายในบ้าน ของที่ขายก็จะเป็นขนมหวาน หวานเย็น และ สลิ่ม ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 พายเรือไปขายตามคลองแควอ้อม จะกลับเข้าบ้านก็เวลาประมาณ 16.40 น.ของทุกวันที่หยุดเรียน

ขายครั้งแรกราคาถ้วยละ สลึง หรือ 25 สตางค์ 4 ถ้วย 1 บาท ขายมาประมาณ 7 ปี ซึ่งก็มีลูกค้าขาประจำจำนวนมาก และได้หันมาขายกาแฟชงโบราณเนื่องจากลูกค้าที่เป็นชาวสวนที่ต้องออกมาทำงานกันแต่เช้ามืด จะถามหาซื้อกาแฟกัน เพราะจะหาซื้อได้ยากบางบ้านไม่มีเวลาตั้งน้ำร้อนหรือที่จะชงแล้วติดตัวมาด้วย”

ยายเชง เล่าต่อว่า เริ่มแรกที่ขายกาแฟโบราณ ขายแก้วละ 50 สตางค์ ก็จะออกพายเรือขายจากบ้านที่บ้านวัดปราโมทย์ อำเภอบางคนฑี จังหวัดสมุทรสงคราม ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของทุกวัน พายไปตามลำคลองแม่น้ำแควอ้อม ผ่าน วัดเพลง อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี และไปสิ้นสุดที่คลองวัดประดู่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม และจะกลับบ้านเวลาประมาณ 17.00 น. ของทุกวัน บางวันขายหมดก่อนก็จะกลับไว ขายอยู่ 10 ปี จึงขึ้นราคา จากแก้วละ 50 สตางค์ มาเป็น แก้วละ 1 บาท และก็ขายเรื่อยมาจนหลายๆเจ้าที่พายเรือขายของด้วยกัน บางคนล้มหายตายจากกันไป บางคนก็เลิกกันไปเพราะการเดินทางเริ่มสะดวก มีถนนตัดผ่านหมด แต่ตนก็ยังยืดอาชีพพายเรือขายกาแฟโบราณเรื่อยมาจน

ปัจจุบันก็ยังพายเรือมาขาย เพราะเป็นอาชีพที่ตนเองรักและทำมานานเงินที่ได้ก็มาจุนเจือครอบครัวเลี้ยงดูหลานถึง 13 คน จนมีเหลนแล้ว อีก 4 คน จนหลานๆ ขอให้หยุดเพราะเห็นว่าอายุมากแล้วกลัวจะพายไม่ไหว ก็หยุดไปประมาณ 3 ปี เพราะยายประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ที่นั่งซ้อนท้ายไปกับหลานจนทำให้ขาเจ็บ แต่ก็ต้องกลับมาขายเหมือนเดิมเพราะหลานๆยอมให้ตนมาขายเพราะมันคือความสุขของยายและทำให้ยายมีกำลังใจมีแรง ถ้าอยู่กับบ้านก็จะป่วยได้ง่ายเสียอีก

“ทุกวันนี้ก็ขอเพิ่มราคามาขายกาแฟโบราณ แก้วละ 15 ชาเย็นแก้วละ 15 บาท โอเลี้ยงแก้วละ 10 บาท ชาดำเย็นแก้วละ 10 บาท น้ำอัดลมก็ 12 บาท ส่วนขนมซองก็ตามราคาท้องตลาด ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้าขาประจำหรือนักท่องเที่ยวทั่วไป” ยายเชง กล่าว

ผศ.ดร.วรรณา โชคบรรดาลสุข ประธานสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี เล่าให้ฟังว่า ยายเชงขายมาประมาณ 60 ปีแล้ว ขายอยู่ริมน้ำแควอ้อมทุกวัน ขายตั้งแต่ที่วัดเพลงไปจนถึงวัดแก้ว ไปถึงวัดบางวันทอง พอระยะหลังยายไปซ้อนรถมอเตอร์ไซต์หลานและประสบอุบัติเหตุขาไม่ค่อยดี หลานก็เลยให้หยุดทำให้ยายไม่ได้ขายกาแฟ ปรากฏว่าลูกค้าที่เคยกินกาแฟของยายก็ถามหาว่าเมื่อไหร่ยายจะลงมาขายอีก แต่ยายก็อยากขายหลานๆก็เห็นว่าแก่แล้วก็ไม่อยากให้ขาย จนมามีตลาดน้ำ 3 อำเภอ ยายก็รู้สึกว่าอยากลุกขึ้นมาขาย หลานๆ ก็โอเคแต่ก็ต้องมาคอยดู ทำให้ยายดีใจมากที่ได้กลับมาขายกาแฟอีกซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมที่ยายรักมาตลอด ยายได้กลับมาชงกาแฟอร่อยๆให้กับลูกค้าที่มาเที่ยวตลาดน้ำ 3 อำเภอ 2 จังหวัด เป็นอาชีพที่ยายแกรักทำให้ยายมีความสุขได้พูดได้คุยกับลูกค้า ทำให้มีสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย

สำหรับลูกค้าขาประจำหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวถนนเพลินเพลงที่หน้าที่ว่าการอำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี และที่ตลาดริมน้ำ 3 อำเภอ วัดเพลง บางคนฑี และอัมพวา 2 จังหวัด ราชบุรี-สมุทรสงคราม สามารถแวะมาชิมได้ที่บริเวณท่าน้ำจากที่หน้าที่ว่าการอำเภอวัดเพลง ไปจนถึงหน้าวัดแก้วเจริญ ได้ทุกวัน เสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน