หนุ่มวัย 47 ปี ช้ำรัก รู้จักสาววัย 33 ปี ทางเฟซบุ๊ก 2 สัปดาห์ หลอกให้รัก อยากมีชีวิตคู่พาไปออกกระบะป้ายแดงกว่า 8 แสน สุดท้ายขับหนีไปต่อหน้าต่อตา
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.66 ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ชัยภูมิ นายบัญชา อายุ 47 ปี ชาว ต.หนองบัวแดง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ อาชีพรปภ. อยู่ในอำเภอหนองบัวแดง หอบเอกสารใบแจ้งความและอื่นๆ เข้ายื่นขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม จ.ชัยภูมิ หลังจากที่ได้ถูก น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ชาวอ.เมือง จ.อุดรธานี
ซึ่งรู้จักกันทางแอปหาคู่ประมาณ 2 สัปดาห์ บอกว่ารักตนเองอยากใช้ชีวิตคู่กับตน แล้วเดินทางมาหาที่บ้าน อ.หนองบัวแดง หลอกชักชวนให้ไปเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ เพื่อนำไปช่วยกันทำมาหากิน ประกอบอาชีพ นายบัญชาหลงเชื่อพากันมาเช่าซื้อรถกระบะ 4 ประตูใหม่ป้ายแดง ที่ศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่ง ในตัวเมืองชัยภูมิ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
ในราคาราคา 800,000 กว่าบาท โดยวางเงินดาวน์ 100,000 บาท หลังจากรับมอบรถแล้วน.ส.บีขับรถป้ายแดง ที่ซื้อมาหนีหายไป นายบัญชาขับรถติดตาม แต่ติดตามไม่ทัน พบว่า GPS ที่ติดมากับรถถูกถอดออกไว้อยู่ในพื้นที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น
เมื่อติดตามไปไม่พบรถยนต์แล้ว มั่นใจถูกหลอกให้รัก แล้วพาไปออกรถยนต์คันใหม่ ก่อนเชิดรถยนต์ขับหนีหายไป จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ แล้วหอบหลักฐานขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม จ.ชัยภูมิ
นายบัญชา เล่าให้ฟังว่า รู้จักหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ น.ส.บี อายุ 33 ปี ชาวอ.เมือง จ.อุดรธานี จากเฟซบุ๊ก เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพูดคุยกันผ่านทางโทรศัพท์และทางไลท์ ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา
ต่อมาบอกว่าเกิดความรักกับตนแล้ว จึงเดินทางมาพบกับแม่ของตนที่บ้าน และพูดคุยตกลงว่าจะแต่งงานกัน แต่ก่อนที่จะแต่งงานอยู่กินฉันผัวเมีย น.ส.บีอ้อนให้ตนไปช่วยออกรถใหม่ให้ อ้างจะนำไปใช้ช่วยกันประกอบอาชีพหารายได้ ตนหลงเชื่อชวนกันมาดูรถยนต์ใหม่ ที่ศูนย์รถยนต์ในเมืองชัยภูมิ เป็นรถกระบะสี่ประตู ในราคา 800,000 กว่าบาท โดยมีตนเป็นผู้ลงนามเช่าซื้อรถยนต์ วางเงินดาวน์ 100,000บาท
เมื่อทางศูนย์รถยนต์ส่งมอบรถให้น.ส.บี หยิบกุญแจขึ้นไปขับรถยนต์หนีหายออกไปจากศูนย์รถอย่างรวดเร็ว ตนขับรถอักคันขับมาตามไป แต่ตามไม่ทัน ตรวจสอบพบว่า GPS ที่ติดมากับรถถูกถอดออกไว้อยู่ในพื้นที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น ก่อนติดตามไปแต่ไม่พบรถแล้ว มั่นใจว่าถูกหลอกให้รักแล้วออกรถยนต์คันใหม่ ก่อนเชิดรถคันใหม่ขับหนีหายไป สิ่งที่ตนอยากได้มากที่สุดคืออยากให้ น.ส.บี นำรถมาคืน แล้วจะไปไหนก็ไป
ล่าสุดทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ หลังได้รับเรื่องแล้ว รีบให้การช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยการโทรติดต่อไปยัง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี เพื่อช่วยตามหาบ้าน ของฝ่ายหญิง ตามทะเบียนบ้านเป็นคนจังหวัดอุดรธานี เพื่อเร่งตามหาคนและรถ เพราะกลัวฝ่ายหญิงจะนำรถข้ามไปฝั่งเพื่อนบ้าน แล้วจะติดต่อยากขึ้น
เพราะน่าจะเป็นขบวนเพราะในวันรับรถหลังจากที่ได้กุญแจรถ มีการถ่ายรูปรับรถเรียบร้อย ทางฝ่ายหญิงก็ขับรถออกจากศูนย์และจอดรับผู้ชายอีกคน ที่ยืนรออยู่หน้าศูนย์ แล้วขับออกไปหน้าตาเฉย ปล่อยทิ้งให้นายบัญชาอยู่คนเดียว
