ญาติโร่แจ้งความ หนุ่มเมีย 2 ลูก 4 ลวงเด็กหญิงวัย 14 ปี ขืนใจหลังรถ ตำรวจ ส่งกระดาษทิชชู่ไปตรวจหาดีเอ็นเอ เตรียมออกหมายจับแล้ว

วันที่ 2 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องจาก นายสา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ล่ามภาษาชาวเมียนมา ขอให้ช่วยเหลือและพาเข้าแจ้งความ หลังได้รับแจ้งจาก นายอู ชาวเมียนมา ว่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ชาวเมียนมา ซึ่งเป็นหลานสาว ถูก นายอ่อง แรงงานก่อสร้างชาวเมียนมา ล่อลวงไปทำอนาจารล่วงละเมิดทางเพศ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา

นายสาได้มีการสอบถามเรื่องราวที่เกิดกับนายอู ทราบว่า เมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา นายอ่องได้ออกอุบายชักชวนหลานสาวให้ออกไปพบที่หน้าแคมป์คนงานก่อสร้าง ภายในซอยวัดตะเคียน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี อ้างว่าซื้อขนมมาให้ หลังจากนั้นได้ใช้กำลังล่วงละเมิดทางเพศหลานสาวบนท้ายรถกระบะ โดยมีเพื่อนร่วมงานของนายอ่องคอยดูต้นทางให้

ญาติโร่แจ้งความ หนุ่มเมีย 2 ลูก 4 ลวงเด็กหญิงวัย 14 ปี ขืนใจหลังรถ ตำรวจ ส่งกระดาษทิชชู่ไปตรวจหาดีเอ็นเอ

ญาติโร่แจ้งความ หนุ่มเมีย 2 ลูก 4 ลวงเด็กหญิงวัย 14 ปี ขืนใจหลังรถ ตำรวจ ส่งกระดาษทิชชู่ไปตรวจหาดีเอ็นเอ

นายสา กล่าวต่อว่า ซึ่งด.ญ.เอบอกว่า ตนพยายามขัดขืนแต่ก็สู้แรงไม่ได้ ถูกกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ หลังจากนั้น ด.ญ.เอจึงเดินร้องไห้กลับเข้ามาในแคมป์ที่พัก นายอูเห็นจึงได้สอบถามว่าเป็นอะไร ด.ญ.เอบอกว่าถูกนายอ่องใช้กำลังบังคับข่มขืน

ด.ญ.เอได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อชี้จุดเกิดเหตุด้วย จึงพบว่ามีกระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้ววางทิ้งอยู่เกลื่อนบริเวณริมถนนเป็นจำนวนมาก ต่อมานายสาได้พานายอูตัน และด.ญ.เอเดินทางไปที่ สภ.ปลายบาง เพื่อแจ้งความกับ พ.ต.ท.วิชาญ ไลไธสง สารวัตร(สอบสวน) สภ.ปลายบาง เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอ่อง

หลังรับแจ้งความแล้วพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำด.ญ.เอ จึงทราบว่า ด.ญ.เอเพิ่งเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย ได้เพียง 2 เดือน จนมาถูกนายอ่องแรงงานสัญชาติเดียวกันเข้ามาตีสนิทด้วยการคอยซื้อขนมมาให้ จนกระทั่งถูกล่อลวงไปทำอนาจารและข่มขืน

หลังสอบปากคำได้ให้ญาติพาด.ญ.เอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบางใหญ่ ขณะเดียวกันได้ประสานให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เกิดเหตุและที่แคมป์ก่อสร้าง เพื่อติดตามตัวนายอ่องมาสอบปากคำแต่นายอ่องผู้ก่อเหตุไหวตัวทัน ได้หลบหนีออกจากห้องพักไปก่อนแล้ว

ต่อมาญาติของนายอ่องได้เดินทางมาที่ สภ.ปลายบาง เพื่อขอพูดคุยเจรจากับนายอูและด.ญ.เอจนทราบว่า นายอ่องไม่ได้เป็นหนุ่มโสด เพราะปัจจุบันมีครอบครัวแล้ว โดยมีภรรยา 2 คน และลูก 4 คน ซึ่งนายอูได้เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000 บาท ซึ่งญาติของนายอ่องยินยอมชดใช้แต่ขอผ่อนจ่ายเป็นระยะเวลา 7 เดือน ทำให้นายอูไม่รับข้อเสนอดังกล่าว เพราะต้องการเป็นเงินก้อนครั้งเดียว จึงไม่สามารถพูดคุยตกลงกันได้

ด้าน พนักงานสอบสวน กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถึงแม้ทั้งสองฝ่ายจะสามารถพูดคุยตกลงกันได้ แต่ทางกฎหมายก็ต้องดำเนินคดีต่อไป เพราะผู้เสียหายเป็นเยาวชน ตอนนี้ต้องรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ นอกจากนี้ ได้ส่งกระดาษทิชชู่ไปตรวจหาดีเอ็นเอ เพื่อนำมาประกอบสำนวนในการขออนุมัติออกหมายจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน