สาวขอเป็นเจ้าภาพกฐิน หาเงินล้านถวายวัด โพสต์โซเชียลเรี่ยไรเงิน เจ้าอาวาสรอเก้อ กรรมการวัดเผย ทางวัดจัดเตรียมงานไว้แล้ว หมดค่าใช้จ่ายเกือบสองแสน

วันที่ 9 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากกรรมการวัดเกตุประภา ม.9 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ว่ามีประชาชนมาขอเป็นประธานถวายกฐินโดยบอกจะนำเงินมาถวาย 1 ล้านบาท แต่เมื่อถึงวันงานกลับไม่มีเงินมาถวายจนเป็นเรื่องเป็นราวถึงขั้นแจ้งความกันหาว่าทางวัดใส่ร้าย หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปที่วัดเพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พระครูโสภณ ธรรมมงคล เจ้าอาวาสวัดเกตุประภา เปิดเผยว่า เมื่อประมาณปีพ.ศ.2564 หญิงดังกล่าวที่จะมาขอเป็นประธานกล่าวคำถวายกฐินได้มาร่วมงานและปีนี้มาติดต่อขอเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน พอวันเข้าพรรษาหญิงคนดังกล่าวก็มาติดต่อขอเป็นเจ้าภาพงานกฐิน โดยบอกว่าถ้ามีจะมอบเงินให้1ล้านบาท โดยวันที่25 พ.ย.2566 หญิงดังกล่าวได้เข้ามาที่วัดอีกครั้งบอกว่าเงินยังไม่มีเลย จึงมีการคุยกันโดยมีการเรียกพระและกรรมการมาพูดคุยกันว่ามีมั้ย

หากไม่มีต้องหามาให้ได้เพราะวันที่26 พ.ย.เป็นวันงานกฐินแล้ว โดยหญิงดังกล่าวบอกจะหามาให้ได้ กระทั่งวันงานกฐินหญิงดังกล่าวได้เดินทางมาร่วมงานกับทางวัดและบอกว่ายังไม่มีเงินเลย โดยตนเองบอกว่าให้คุยกับพระและกรรมการก่อนโดยเวลาทอดกฐินก็ไม่มีเงินมาเลย มีกันมา3คน โดยพระจึงบอกกันว่า ถ้าเป็นแบบนั้นให้เป็นกฐินสามัคคีไป

พอถึงเวลาทอดกฐินอาตมาก็ไม่ได้อุปโลกน์ว่าใครเป็นเจ้าภาพ อุปโลกน์ว่าผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ โดยเจ้าตัวไม่มีเงินมาตนเองจะให้กล่าวได้อย่างไร ซึ่งจนถึงขณะนี้ได้มีการโทรศัพท์ไปหาก็ไม่รับสายเลย โดยเย็นวันทอดกฐินยังรับสายอยู่โ ดยกรรมการได้โทรไปหาเพื่อให้มาตกลงกันโดยตกลงไปตกลงมาโดยเจ้าตัวบอกว่าวันที่1 ธันวาคม2566 จะนำเงินมาให้แต่ก็ไม่มา แต่ในวันงานกฐินเครื่องกฐินและค่าอาหารหญิงดังกล่าวได้จัดหามาก่อนแล้ว

นายวิรัช ชื่นจรูญ กรรมการวัด เปิดเผยว่า ตนเองมาทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก็วันทอดผ้าพระกฐินเวลา10.00น.วันที่ 26 พ.ย.2566 โดยหญิงดังกล่าวบอกว่าไม่มีเงินมาตนเองยังบอกอ้าวแล้วมาคุยกับเจ้าอาวาสได้อย่างไรตนเองยังพูดคุยกับหญิงดังกล่าวว่าพร้อมจะถวายเท่าไหร่ เจ้าตัวบอกว่าสามแสนบาทโดยจะมาให้ก่อนวันที่1.ธ.ค.2566 จำนวนสามแสนบาทและอีกเจ็ดแสนจะมาให้เดือนกุมภาพันธ์








Advertisement

ตนเองบอกไปว่าทางวัดไม่เอาเอาแค่สามแสนพอ ตนเองบอกไปว่าถ้าไม่มามันจะเป็นเรื่องราวกันนะจะต้องแจ้งนักข่าวมา โดยหญิงดังกล่าวบอกว่ามาแน่ กระทั่งบ่ายวันที่ 1ธ.ค.ทราบว่าหญิงดังกล่าวไปแจ้งความหาว่าทางวัดใส่ร้ายว่าทางหญิงดังกล่าวอมเงินกฐิน ประกอบกับลูกศิษย์วัดเปิดเจอในเฟซบุ๊กว่าหญิงดังกล่าวมีการเปิดเฟซบุ๊กชักชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญโดยมีคนโอนเงินจำนวนยมาก ก่อนที่เฟซบุ๊กนั้นจะปิดไป

หลังจากนั้นเจ้าอาวาส และกรรมการได้เดินทางไปแจ้งตำรวจสภ.ลำลูกกาเมื่อวันที่6ธันวาคม2566 ว่าทางวัดได้มีการจัดเตรียมงานและลงทุนไปหลายอย่างค่าใช้จ่ายเกือบสองแสนบาท เพื่อรับกฐินแต่พอถึงเวลาน.ส.ณัฏฐกรณ์ ที่อ้างว่าจะนำเงินมาถวาย1ล้านบาท เพื่อขอเป็นเจ้าภาพกฐินแต่พอถึงวันงานกลับไม่มีเงินมาถวาย แถมยังมีการเปิดเฟซบุ๊กเพื่อรับบริจาคซึ่งแสดงถึงเจตนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อผิดสัญญา

ด้านนายนที ชื่นจรูญ กรรมการวัด เปิดเผยว่า ตนเองไม่เคยเห็นบุคคลพวกนี้มาก่อนส่วนใหญ่จะรู้จักกันกับอาจารย์ อาจารย์เลยรับให้เขาเป็นเจ้าภาพกฐิน ซึ่งหลังจากแจ้งความเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้นทางตำรวจบอกว่าเดี๋ยวจะเรียกให้มาไกล่เกลี้ยเพราะเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา

เรื่องที่หญิงดังกล่าวไปเรี่ยไรเพื่อนำเงินมาถวายกฐินส่วนนั้นเราแจ้งไม่ได้ เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดส่วนใหญ่ไม่มีใครเขาทำสายบุญจริงๆไม่มีใครเขาทำวัดไม่ได้เจาะจงว่าต้องเท่านั้นเท่านี้มีเท่าไหร่ก็ทำ เหมือนเจตนาเอาชื่อวัดไปให้เพื่อนๆสายมูมาทำบุญกับตัวเขาโดยจะได้เงินเท่าไหร่ตนเองไม่ทราบ ตนเองอยากจะบอกว่าอย่าทำอีกเลยมันบาปครั้งนี้ทำได้เดี๋ยวครั้งต่อไปก็ทำอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน