บุกจับคาห้องนอน! หนุ่มยกเศษผ้าลอบค้ายาบ้าเป็นอาชีพเสริม อ้างค่าแรงน้อยไม่พอใช้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 มี.ค. นายชวลิต ทรงกิตติ นายอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยนายวรพจน์ ศรีใย ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง รอ.ทองจันทร์ ทาวันละ หัวหน้าชุด คสช.ประจำอำเภอพระสมุทรเจดีย์ นำกำลังกองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 5 อ.พระสมุทรเจดีย์ ร่วมกันจับกุมตัวนายนิตินันท์ เเช่มชื่น อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 ม.3 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมยาบ้า 342 เม็ด ยาเค 0.10 กรัม และอุปกรณ์การเสพหลายรายการ โดยจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 220/99 ม.ภูมิใจนิเวศ 1 ซอย 8 แยก 2 ม.4 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์

โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับการร้องเรียนผ่านทางเว็บไซด์ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพระสมุทรเจดีย์ว่า บริเวณร้านขายของชำภายในหมู่บ้านภูมิใจนิเวศน์ 1 ซอย 8 แยกที่ 2 เลขที่ 220/99 ม.4 ต.ในคลองบางปลากด มีชายวัยรุ่นพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานภายในหมู่บ้าน จึงได้ติดตามหาข่าวจนทราบแน่ชัด ก่อนที่จะสนธิกำลังประชุมวางแผนพร้อมเดินทางไปปิดล้อมตรวจค้นพบเป็นเทาว์เฮ้าส์ขนาด 2 ชั้น บริเวณชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังตรวจค้นทั้งหมด

จากการตรวจสอบบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องนอนพบนายนิตินันท์กำลังนั่งเสพยาบ้าอยู่ในห้อง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตรวจขอตรวจค้นพบ ยาบ้า 342 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าถือแบบผู้หญิงสีชมพูลายการ์ตูนซุกไว้ในช่องระบายอากาศของตู้ลำโพงและตรวจค้นพบยาเค น้ำหนักรวม 0.10 กรัม ห่อใส่กระดาษฟอยล์วางไว้บริเวณชั้นวางของ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางไปสอบสวนเพิ่มเติม

จากากรสอบสวนนายนิตินันท์ ให้การอ้างว่า ตนมีอาชีพเป็นเด็กยกเศษผ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยภายในหมู่บ้านภูมิใจนิเวศเกือบทุกหลังคาเรือนจะประกอบกิจการเย็บผ้าวน ตนจะไปคอยรับจ้างยกขึ้นรถ ส่วนยาบ้านั้น ได้สั่งมาจากนายสน (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) อายุ 30-35 ปี มีบ้านพักอยู่แถวประชาอุทิศ โดยจะสั่งให้มาส่งครั้งละ 400-500 เม็ดในราคา 9,000-12,000 บาท ซึ่งจะนัดส่งกันบริเวณกองขยะหรือที่ลับตาคน

นายนิตินันท์ ให้การอีกว่า ก่อนที่จะโทรศัพท์ให้ตนไปรับยามาแบ่งจำหน่าย โดยจะแยกใส่ในถุงพลาสติกใสถุงละ 10 เม็ด ราคาถุงละ 700 บาท ส่วนเงินที่ได้มาจะนำไปใช้จ่ายส่วนตัวและเหลือเก็บไว้เพื่อเป็นทุนซื้อยาบ้ามาจำหน่ายอีก เนื่องจากค่าแรงที่ได้มาจากการรับจ้างยกผ้าไม่พอเพียง จึงนำเงินที่พอเหลือลงทุนติดต่อซื้อยาบ้ามาจำหน่าย

ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหามียาเสพติดประเภทที่ 1 ยาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป