ชาวบ้านรวมตัว แจ้งเอาผิด 2 บริษัท ถูกลอยแพไม่รับซื้อใบกระท่อม ทำสัญญาซื้อขาย 10 ปี ถึงเวลามาเอาของไป แต่เงินยังไม่จ่าย บางรายกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนแทบเข่าทรุด
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.66 ที่สภ.ภูซาง จ.พะเยา กลุ่มชาวบ้านเกือบ 20 คนจาก 2 อำเภอคือ เชียงคำ-ภูซาง รวมตัวกันเข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.ภูซาง เรื่องที่มี 2 บริษัทมาอบรมและชักชวนให้ชาวบ้านกลุ่มนี้เพาะปลูกต้นกระท่อม ซึ่งบริษัทแรกตั้งอยู่ใน จ.สตูล ส่วนอีกบริษัทตั้งอยู่ที่ จ.เชียงราย โดยทำสัญญาซื้อขายกันเป็นเวลา 10 ปี
อีกทั้งเมื่อครบ 2 ปีแรกจะรับซื้อในกิโลกรัมละ 200 บาท ทันทีและหลังจากนั้นจะรับซื้อปีต่อปีด้วย ทั้งนี้ชาวบ้านกลุ่มนี้มีความสนใจพร้อมร่วมลงทุนในเรื่องดังกล่าวจนระยะเวลาผ่านไป 1-2 ปี กลับไม่มีทีท่าว่า ทางบริษัทนี้จะเข้ามารับซื้อตามที่ทำสัญญาไว้ ทั้งนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้
นางณัฐพร อายุ 55 ชาวบ้านปัว ม.8 ต.สบบง อ.ภูซาง 1 ในกลุ่มชาวบ้านนี้ เล่าว่า ส่วนตัวของตนแล้วเริ่มแล้วปลูกมาสักระยะจนครบที่เก็บไปส่งขายให้กับทางบริษัทดังกล่าวนี้ ทั้งนี้พื้นที่ที่ตนปลูกนั้นมีประมาณ 3 ไร่ จำนวนต้นกระท่อม 200 กว่าต้นด้วยกัน
แต่พอถึงเวลาที่รับซื้อนั้นทางบริษัทส่งคนมาเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ตกลงตามสัญญาไว้ แต่กลับพบว่าในเรื่องของการจ่ายเงินนั้น ต้องให้ตนรออยู่เรื่อยๆ จนสุดท้ายก็มีหลายคนในกลุ่มเริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องไม่ได้เงิน ค่าขายใบกระท่อม จากบริษัทที่ตนเข้าร่วมนี้ ซึ่งเวลานี้เข้าปีที่ 3 แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เงินแม้แต่น้อย ตนจึงปรึกษากับทางสมาชิกในกลุ่มก่อนจะติดต่อกับทางตัวแทนบริษัท แต่สุดท้ายทางบริษัทที่รับซื้อนี้ก็ได้ แต่ผลัดการจ่ายเงินไปเรื่อยๆ
ด้าน นายสุวิทย์ ผู้ได้รับผลกระทบอีกราย และยังเป็นตัวแทนของบริษัทซึ่งถูกแบ่งเขตให้เป็นตัวแทนพะเยา 2 กล่าวว่า วันนี้ตนพาสมาชิกทั้งหมดมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ภูซาง ก็เนื่องด้วยทางบริษัทที่รับซื้อใบกระท่อมนี้ ผิดสัญญาการจ่ายเงินกับทางสมาชิกกลุ่ม ผู้ปลูกต้นกระท่อม
พบว่าบางรายปลูกได้ 1 ปี ตามสัญญากลับไม่รับซื้อตามที่อ้าง ส่วนที่รับซื้อไปแล้วบอกว่า จะจ่ายเงินภายใน 7 วัน เมื่อครบตามเวลาที่นัดก็พูดเลื่อนออกไปอีก 1 เดือน จนมาตอนนี้ไม่มีทีท่าว่าจะจ่ายเงินให้กับทั้งตนและสมาชิกในกลุ่มด้วย
บริษัทดังกล่าวนั้นจะมอบหมายให้ตัวแทนเป็นคนดูแลผู้ปลูกจะไม่ตั้งศูนย์ในพื้นที่แต่อย่างใด ในช่วงแรกของการปลูกนั้นทางบริษัทเดินทางมาเปิดจุดซื้อขายและทดลองปลูกอย่างเป็นทางการด้วย
“ตอนนั้นบอกว่าจะรับซื้อใบกระท่อม กิโลกรัมละ 200 บาท เมื่อครบ 1 ปีของการปลูก ซึ่งก็พบว่ามีกลุ่มชาวบ้านที่สนใจร่วมปลูกประมาณ 90 ราย จาก 3 อำเภอ คือ อ.เชียงคำ อ.ภูซาง จ.พะเยา และ อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ผมก็ร่วมลงทุนการปลูกด้วยจำนวน 13 ไร่ อยู่ที่ 1,300 ต้น แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว
เมื่อเกิดเรื่องขึ้นผมติดต่อไปยังบริษัทที่ผมเป็นตัวแทนอยู่ กลับพูดบ่ายเบี่ยงไปเรื่อยๆ ทำให้เริ่มไม่สบายใจ รวมทั้งสมาชิกที่ปลูกก็มาถามอยู่เรื่อยๆ จนสุดท้ายหลายคนคงเข้าใจว่า ถูกหลอกให้ปลูกต้นกระท่อม วันนี้จึงมารวมตัว เพื่อเข้าแจ้งความในเรื่องที่เกิดขึ้น” นายสุวิทย์ กล่าว