พ่อเลี้ยงดังเมืองตาก เครียดธุรกิจชายแดนโดนโกง ใช้ปืนยิงแม่เลี้ยง เสียชีวิต ก่อนก่อเหตุสลดกับตัวเอง แต่ยังไม่เสียชีวิต อาการสาหัส เขียนจดหมายสั่งลาไว้หลังรถ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 ธ.ค.2566 พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด จังหวัดตาก รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 1 ศพ สาหัส 1 ราย ในบ้านพักตากอากาศกลางหมู่บ้านหัวฝาย ใกล้อ่างเก็บน้ำชลประทานแม่สอด หมู่ที่ 2 ตำบลพระธาตุผาแดง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังรับแจ้งเหตุตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.แม่สอด พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตากและแพทย์เวรโรงพยาบาลแม่สอดร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงในจุดเกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากมามุงดูเหตุการณ์เต็มถนนหน้าบ้านภายในบ้านเป็นบ้านไม้สักหลังใหญ่ 2 ชั้น เจ้าหน้าที่รีบปิดกั้นจุดเกิดเหตุไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปโดยเด็ดขาด จากนั้นร่วมกันเข้าตรวจสอบใต้ถุนบ้านพบรถต์เก๋ง สีแดง ที่กระจกด้านหลังพบกระดาษสีขาวแผ่นใหญ่มีข้อความเขียนสั่งเสีย ความว่า
ข้อความสั่งลาในที่เกิดเหตุ
“ถึงทุกๆคน ปัญหาเรา 2 คนมาถึงทางตันแล้วขอให้ ผู้กองอาทิตย์-ป้าเพ็ญ- อังทานา มอบให้โรงพยาบาลเผาศพเรา 2 คนไม่ต้องมีพิธีไม่ต้องนำกลับมา ทำให้เรียบง่ายที่สุดและขออโหสิกรรมที่ทำให้เดือดร้อน”โดยเป็นข้อความของนางอุบลเจ้าของบ้านเขียนสั่งเสีย
ขณะที่ห้องโถงใกล้กับขึ้นลงบันไดบ้านชั้นล่าง พบศพ นางอุบล (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี หรือ แม่เลี้ยงโม บริเวณขมับซ้ายถูกปืนจ่อยิงระยะใกล้ 1 นัด นอนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุโดยมีผ้าห่มคลุมร่างอย่างดี ขณะที่ห่างกันไปไม่มากนักพบร่าง นายธเนศ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ซึ่งรู้จักกันในนามพ่อเลี้ยงเสา นักธุรกิจการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ชื่อดัง มีบาดแผลถูกจ่อยิงที่ขมับขวา 1 นัดอาการสาหัส
ใกล้กันพบปืนพกสั้น ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก ตกอยู่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องรีบนำตัวพ่อเลี้ยงเสาส่งโรงพยาบาลแม่สอด ขณะนี้อาการยังไม่พ้นขีดอันตรายแพทย์ต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงในการเก็บวัตถุพยานหลักฐานในบ้านเกิดเหตุอย่างละเอียดก่อนตำรวจสั่งการให้สมาคมกู้ภัยพระธาตุผาแดงนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลแม่สอดท่ามกลางความเสียใจของชาวบ้านจำนวนมากที่มามุงดูเหตุการณ์สลดในครั้งนี้
สอบสวนญาติและกลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิต ให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า พ่อเลี้ยงเสา กับน แม่เลี้ยงโม ทั้งสองเป็นสามีภรรยาอยู่กินมานานกันหลายสิบปีมีบุตรชายสองคนซึ่งสองสามีภรรยาคู่นี้เป็นนักธุรกิจชื่อดังในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาและพักอาศัยอยู่กันสองคนในบ้านพักตากอากาศหลังนี้มานานหลายเดือน
ที่ผ่านมาพ่อเลี้ยงเสาและแม่เลี้ยงโม ร่วมลงทุนทำธุรกิจน้ำมันระหว่างชายแดนและธุรกิจอื่นร่วมด้วยแต่เกิดปัญหาทางธุรกิจมีปัญหาจนเกิดหนี้สินหลายล้านบาทจนทั้งสองเกิดอาการเครียดเขียนจดหมายลาตาย ก่อนช่วงเช้าวันนี้พ่อเลี้ยงเสาจะใช้ปืนยิงภรรยาเสียชีวิต พร้อมใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงมาที่ตัวเอง
นายจ่อ คนงานที่พบเหตุการณ์คนแรกเล่าให้ตำรวจฟังว่า ก่อเกิดเหตุพ่อเลี้ยงเสาสั่งให้ตนเองมาหาที่บ้านพักในช่วงเช้า ซึ่งตนเองรู้สึกแปลกใจพอช่วงเช้าตนเองตะโกนเรียกพ่อเสี้ยงเสาแต่ไม่มีเสียงตอบรับออกมาจากคนในบ้านจึงสงสัย ประกอบกับประตูรั้วบ้านไม่ได้ปิดจึงเดินเข้าไปในบ้านพบพ่อเลี้ยงเสากำลังล้างเลือดที่ไหลเต็มใบหน้าก่อนจะสลบไป
ส่วนแม่เลี้ยงโมเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานสาเหตุมูลเหตุของคดีนี้มาจากความเครียดปัญหาหนี้สินจำนวนมากจากธุรกิจประสบปัญหาขาดทุนจนสองสามีภรรยาคู่นี้ตัดสินใจตกลงที่จะสมัครใจทำร้ายตนเองจนเสียชีวิตและทางญาติของผู้เสียชีวิตไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
