“ชลน่าน” ควง “อิ๊งค์” ลุยร้อยเอ็ด ตรวจความพร้อมระบบประกันสุขภาพ ยกระดับบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ก่อน “เศรษฐา” คิกออฟนำร่อง 4 จังหวัดเย็นนี้
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2567 ที่รพ.จตุรพักตรพิมาน อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ (ฝ่ายการเมือง) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ
นายเศกสิทธิ์ ไวยนิยมพงศ์ นายกอบจ.ร้อยเอ็ด นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย สส.สระแก้ว รวมทั้งสส.พรรคเพื่อไทย อาทิ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด น.ส.ชนก จันทาทอง น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช น.ส.จิราพร สินธุไพร น.ส.ชญาภา สินธุไพร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการดำเนินนโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่” ตรวจเยี่ยมดูระบบการตรวจสอบประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์
การออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล ใบสั่งยา/ใบสั่งแล็ปออนไลน์ การแพทย์ทางไกล เภสัชกรรมทางไกล การนัดหมายออนไลน์ และระบบส่งยาและเวชภัณฑ์ที่บ้าน รวมถึงระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ ก่อนที่เริ่มคิกออฟโครงการอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นวันนี้
โดยจะมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานเปิดโครงการ ณ ลานสาเกตุนคร หน้าหอโหวด 101 จ.ร้อยเอ็ด และนำร่องพร้อมกันในอีก 3 จังหวัด คือ แพร่ เพชรบุรี และนราธิวาส รองรับการให้บริการประชาชนครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ
สำหรับการยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ ถูกยกระดับเป็น “30 บาทรักษาทุกที่” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “30 บาทพลัส” ที่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลทุกเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ที่สำคัญยังสามารถเข้ารับการรักษามะเร็งได้ครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การฉีดวัคซีน การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม หากตรวจพบก็จะถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาต่อไป นอกจากนี้ยังเข้าถึงบริการในเขตเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน
โดยเชิญเอกชนเข้ามาร่วมให้บริการมากขึ้น ทั้งร้านยา คลินิกทันตกรรม คลินิกกายภาพบำบัด นับเป็นการลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข และอำนวยความสะดวกในการรับบริการของประชาชนอย่างแท้จริง
ส่วนการขยายนโยบายในเฟส 2 จะครอบคลุมพื้นที่อีก 8 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา ภายในเดือนมี.ค.นี้