ปลัดมท.ปลุก Passion “ครู ก” ผู้ถ่ายทอดความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น รุ่นแรก เน้นย้ำ ทุกคนคือจิตอาสาที่จะนำพาประเทศให้เจริญงอกงามผ่านการส่งต่อความรู้และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ชาติไทยและท้องถิ่น เสริมสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทยสู่หัวใจเด็กเยาวชน และประชาชน เพื่อประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน

วันนี้ (10 ม.ค. 67) เวลา 08.00 น. ที่หอประชุมพระยาสัจจา ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย บรรยายพิเศษโครงการศึกษาอบรมวิทยากรเพื่อทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น ปี 2567 รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 8 – 12 มกราคม 2567 โดยได้รับเกียรติจากนายกองเอก ธารณา คชเสนี นายหมวดตรี น้ำเพ็ชร คชเสนี สัตยารักษ์ ดร.ลักษิกา เจริญศรี ร่วมเป็นวิทยากร โอกาสนี้ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร นายอำนาจ เจริญศรี นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร้อยตรี สรมงคล มงคละสิริ ผู้อำนวยการสถาบันดำรงราชานุภาพ ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมด้วยข้าราชการ ครู ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน และผู้เข้าร่วมการศึกษาอบรม จำนวนรวม 200 คน ร่วมรับฟัง

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พี่ ๆ น้อง ๆ ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมในครั้งนี้ คือ ผู้ที่เป็นความหวังของประเทศในการน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประกอบกับพระราชปณิธาน “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” อันเป็นเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นแน่วแน่ของพระองค์ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชดำริ พระราชปณิธานทั้งปวงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อันเป็นแนวทางที่พระองค์ได้พระราชทานให้ไว้เป็นหลักชัยแก่บ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการทุกคนผู้ซึ่งทำหน้าที่ข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะได้น้อมนำมาเป็นหลักปฏิบัติเพื่อจะทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข

“วันนี้พวกเราได้มาเสียสละใช้ชีวิตร่วมกันที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรีแห่งนี้ เพื่อช่วยกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้สิ่งที่เป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงของชาติ อันจะนำไปสู่ความรู้รักสามัคคีและความสุขของพี่น้องประชาชนโดยรวม ซึ่งทั้งหมดเป็นพื้นฐานสำคัญที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชดำริและพระราชเสาวนีย์หลายครั้งหลายคราด้วยกันว่า ประเทศไทยจะต้องมีผู้มีความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย อันจะทำให้ประเทศชาติมั่นคงได้ เพราะวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทยจะทำให้เรารู้รากเหง้า ที่มาที่ไปของบรรพบุรุษของเรา และจะได้รู้สิ่งที่หาได้ยากในปัจจุบัน นั่นคือ ความภาคภูมิใจและความกตัญญูกตเวที ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเปรียบเปรยพระราชปณิธานของพระองค์ท่านในเรื่องนี้มาจากการที่พระองค์ทรงเข้ารับการศึกษาที่ต่างประเทศ คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทุกวิชาของสหรัฐอเมริกาหรือนานาประเทศล้วนแฝงไปด้วยการศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย เพราะทุกประเทศมีวิชาพื้นฐานในการสร้างคนในชาติให้มีความเป็นปึกแผ่นหรือ “Unity” เกิดความหวงแหน ความรักความสามัคคีในประเทศจากวิชาประวัติศาสตร์ ดังนั้น หากคนไทยได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็จะได้รู้จักชาติ และบรรพบุรุษที่เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตในการรักษาผืนแผ่นดินจนมีดินแดน มีเอกราชมาถึงคนรุ่นปัจจุบัน ทั้งนี้ โดยส่วนตัวตนเป็นคนจังหวัดตราด ซึ่งชาวตราดมีวันสำคัญของจังหวัด คือ “วันปิยมหาราช” อันเป็นวันเพื่อรำลึกพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ผู้เป็นมากกว่าพระราชบิดาของประชาชนชาวตราด เพราะพระองค์ยอมเสียสละแผ่นดินจำนวนมากเพื่อให้ดำรงรักษาจังหวัดตราดให้คงอยู่ แม้ว่าจังหวัดตราดจะเป็นจังหวัดที่เล็กแต่พระองค์ยอมเสียสละแผ่นดินจำนวนมากที่ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศกัมพูชา เพื่อให้คนไทยได้อยู่บนผืนแผ่นดินไทย จึงทำให้คนตราดได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน และทำให้เด็กเยาวชนคนรุ่นหลังได้รู้จักความรักและความกตัญญูต่อผืนแผ่นดินไทย” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า พวกเราทุกคนจำเป็นต้องช่วยกันแก้ไขในสิ่งผิด ด้วยการฟื้นฟูวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นให้กลับมาคงอยู่ พวกเราในฐานะพสกนิกรชาวไทยจะได้มีโอกาสในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้คนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงมหาดไทยมีสถานศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่จำนวนมาก รวมถึงสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่กระจายอยู่ในทุกจังหวัดของประเทศไทย ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ขับเคลื่อนแนวทางลดเวลาเรียน สร้างเวลารู้ จัดให้มีการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ให้กลับมาสู่ชั้นเรียนสัปดาห์ละ 5 วัน รวมถึงวิชาศีลธรรมและวิชาหน้าที่พลเมืองที่จะทำให้เกิดการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน มีความตั้งใจ ความสนใจ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ซึ่งแนวทางเหล่านี้นับเป็นปฐมบทของกระทรวงมหาดไทยในการที่จะได้สนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

“กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานดำเนินการจัดการศึกษาอบรมผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น รุ่นที่ 1 ในครั้งนี้ขึ้น ซึ่งตนในฐานะผู้นำของกระทรวงมหาดไทยมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยจิตอาสาผู้ที่กล้าบอกเล่าประวัติศาสตร์ชาติไทยให้คนทั่วไปได้รับรู้และรับทราบ จึงได้แจ้งไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้สนับสนุนทุกท่านในการเป็นจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ไปทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทยและท้องถิ่นควบคู่กับการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ด้วยการลงไปคลุกคลีตีโมง สร้างความเข้มแข็งในชุมชน ทำให้เกิดเป็นกลุ่มบ้าน คุ้มบ้าน ป๊อกบ้าน หย่อมบ้าน ไปทำความรู้จักกับผู้นำในพื้นที่ให้เกิดการพูดคุย รวมถึงการบอกเล่าในเวทีประชุมระดับต่าง ๆ ทั้งการประชุมกรมการจังหวัด กรมการอำเภอ การประชุมสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การประชุมชุมชน การประชุมคณะกรรมการหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการประชุมที่จะรวมเอาคนที่มีจิตใจรักชาติ เสียสละ และมีจิตอาสา ที่พร้อมจะนำวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทยไปถ่ายทอดและบอกเล่าในวาระต่าง ๆ ด้วยผู้นำที่มีความกล้าและเสียสละไปบอกเล่าเรื่องราว เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสไปบอกเล่าประวัติศาสตร์ชาติไทยและท้องถิ่นให้กับพี่น้องประชาชนและลูกหลานของเรา” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพวกเราทุกคนช่วยกันธำรงรักษา ถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เดินหน้าต่อยอดทำให้เกิดครู ข หรือเรียกว่า “โคลนนิ่ง” ทำให้เกิดปราชญ์ชาวบ้าน “หมู่บ้านละ 1 คน” ไปเล่าเรื่องราวถ่ายทอดความรู้ ทำให้คนในชาติมีจิตสำนึกและค่านิยมรักความเป็นไทย รักสถาบันสำคัญของชาติ เป็นพลเมืองดีที่เห็นชาติสำคัญกว่าชีวิตและครอบครัว สังคมก็จะมีความสุข เกิดความงอกงามเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นต่อไป ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับทุกคนที่ต้องช่วยกัน ประเทศชาติเราก็ต้องคอยรดน้ำและพรวนดินทำให้ชาติบ้านเมืองเจริญงอกงามวัฒนาผาสุกด้วยค่านิยมของความเป็นไทย ช่วยกันบอกเล่าประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการรับรู้ เรียนรู้ และเข้าใจ ช่วยกันบอกเล่าพื้นฐานความดีงามนี้ให้กับเด็กและเยาวชน ทำให้ทุกคนได้รู้จักรากเหง้าของบรรพบุรุษที่เสียสละเลือดเนื้อกอบกู้แผ่นดินไทยให้กับพวกเรา และแม้ว่าในขณะนี้องค์ความรู้ทางวิชาการประวัติศาสตร์ในหลายเรื่องต้องใช้เวลาพิสูจน์หลักฐานทางโบราณคดี ซึ่งร่องรอยทางประวัติศาสตร์บางส่วนก็มีและหลายส่วนก็ยังไม่ค้นพบ แต่การบอกเล่าเรื่องราวที่พวกเรากำลังทำนี้ คือ “การนำเอาสิ่งที่ดีงาม” ที่ได้กลั่นกรองว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องของสังคมไปถ่ายทอดให้กับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เป็นเรื่องที่สำคัญ คือ การเรียนรู้ความกตัญญู การรำลึกนึกถึงขอบคุณคุณงามความดีของสถาบันพระมหากษัตริย์และเหล่าทหารหาญที่เป็นบรรพบุรุษของพวกเรา ซึ่งการใฝ่รู้ การศึกษาสิ่งเหล่านี้ จะก่อให้เกิดความเจริญของประเทศต่อไป

“ขอขอบคุณคณะวิทยากรผู้ทรงคุณค่าที่ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนโครงการให้เกิดครูบอกเล่าประวัติศาสตร์ชาติไทย ผู้เป็นจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ของกระทรวงมหาดไทยให้เกิดขึ้น ทำให้พวกเราได้มีโอกาสในการสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอขอบคุณผู้เข้ารับการศึกษาอบรมทุกท่านที่กล้าลุกขึ้นมาแสดงตนด้วยความเต็มใจในการที่จะนำความรู้ความสามารถของท่านบวกกับความรู้ของคณาจารย์ไปบอกเล่าให้กับเด็กและเยาวชน รวมถึงประชาชนด้วยหัวใจ เพราะทุกท่านมีหัวใจดวงเดียวกัน คือ หัวใจที่แน่วแน่ไม่แปรผัน มีหัวใจที่เข้มแข็ง มี “Passion” ที่ไม่เพิกเฉยต่อการเป็นผู้นำไปบอกเล่าประวัติศาสตร์สู่ประชาชนคนไทย ทุกท่าน คือ ความหวังที่จะทำให้อนาคตของชาติจะดำรงคงอยู่ได้ เราทุกคนจะทำร่วมกัน เราจะไม่เดินคนเดียว เราจะหลอมรวมพลัง หลอมรวมดวงใจ หลอมรวมความมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้ประเทศชาติมั่นคงและประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

#WorldSoilDay #วันดินโลก
#UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife
#ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน
#SDGsforAll #ChangeforGood

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน