พ่อค้า ขายกระเป๋า ผวา กลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ กองปราบ บุกค้นร้าน อุ้มรีดเงิน 20,000 บาทหน้าโรงพัก แถมบอกจะเข้ามาเก็บรายเดือนอีกด้วย

วันที่ 15 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้รับเรื่องร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือจาก นายต๊ะ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี พ่อค้าขายกระเป๋าในตลาดนัดแห่งหนึ่ง ว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ของวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างเตรียมเปิดร้านขายของในตลาด ถูกชายฉกรรจ์ 4 คน เดินเข้ามาหาพร้อมโชว์บัตรให้ดู อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เข้าตรวจค้นภายในร้านตน

นายต๊ะ กล่าวต่อว่า ก่อนจะทำการรื้อค้นและหยิบเอากระเป๋าแฟชั่นยี่ห้อต่าง ๆ ประมาณเกือบ 20 ใบใส่ถุงดำไป จากนั้นได้พาตนขึ้นรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ไม่ทราบทะเบียน โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว ไม่ได้แสดงเอกสารตัวแทนลิขสิทธิ์ใด ๆ ให้ตนทราบเลยว่า ตนไปขายสินค้าหรือกระเป๋าใบใดที่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์

พ่อค้า ขายกระเป๋า ผวา กลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ กองปราบ บุกค้นร้าน อุ้มรีดเงิน 20,000 บาทหน้าโรงพัก

พ่อค้า ขายกระเป๋า ผวา กลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ กองปราบ บุกค้นร้าน อุ้มรีดเงิน 20,000 บาทหน้าโรงพัก

นายต๊ะ กล่าวอีกว่า จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างว่า จะนำตนไปเปรียบเทียบปรับที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ โดยระหว่างที่ตนขึ้นรถไปด้วย กลุ่มชายฉกรรจ์ได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของตนเพื่อไม่ให้บันทึกเสียงหรือแอบถ่ายคลิปวิดีโอในขณะที่นั่งรถไปด้วย

นายต๊ะ กล่าวว่า เมื่อรถของกลุ่มชายฉกรรจ์พาตนไปถึงโรงพักแล้ว ได้ขับวนรอบโรงพักก่อนจะพาออกไปจอดที่ริมถนนข้างโรงพักแล้วบอกกับตนว่า สามารถติดต่อใครให้มาเคลียร์ได้ไหม ถ้าไม่มีให้เสียค่าปรับได้ ตนจึงถามกลับไปว่าค่าปรับเป็นเงินเท่าไร ถ้าตนพอหามาจ่ายไหวก็จะจ่ายให้ แต่ถ้าเป็นจำนวนเงินที่สูงมากเกินไปตนก็พร้อมถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายต๊ะ กล่าวด้วยว่า ทำให้ชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่นั่งประกบตนอยู่บอกว่า ค่าปรับตรงนี้ 20,000 บาท ให้ตนหาเงินมาจ่ายก็จบกันไป ตนจึงตัดสินใจโทรศัพท์ขอหยิบยืมเงินจากแม่ยาย 20,000 บาทมาโอนจ่ายเข้าบัญชีตามที่กลุ่มชายฉกรรจ์แจ้งมา

นายต๊ะ กล่าวต่อว่า ซึ่งหลังจากที่ตนโอนเงินให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ก็ปล่อยตัวลงมาจากรถ แต่เมื่อตนทวงกระเป๋าที่ถูกยึดมาด้วย ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้คืนให้ตนมา 7-8 ใบเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 10 กว่าใบ เขาอ้างว่าต้องนำไปเป็นของกลางเพื่อลงบันทึกจับกุม

นายต๊ะ กล่าวอีกว่า ก่อนที่ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้จะขับรถออกไป ยังได้บอกกำชับกับตนเอาไว้ว่า หลังจากนี้เขาจะเข้ามาเก็บรายเดือนที่ร้านอีกด้วย แต่ยังไม่ได้บอกเรื่องจำนวนเงิน แต่ให้ตนเตรียมเงินไว้ ทำให้หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเป็นต้นมา ตนกับภรรยาไม่กล้าเปิดร้านขายกระเป๋าอีกเลย

นายต๊ะ กล่าวว่า เพราะไม่รู้ว่าจะถูกชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจกองปราบย้อนกลับมาจับตนอีกหรือไม่ ซึ่งไม่คุ้มกับค่าปรับที่เสียไป และด้วยความสงสัยว่าชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ที่อ้างตัวเป็นตำรวจแล้วเรียกเงินค่าปรับจากตนไป 20,000 บาทเป็นตำรวจจริงหรือไม่

นายต๊ะ กล่าวด้วยว่า ตนจึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าว เนื่องจากหวาดกลัวว่าหากกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเป็นตำรวจจริงก็เกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ปลอดภัยตามมา อยากให้ช่วยตรวจสอบบัญชีที่ตนโอนเงินค่าปรับไปให้ รวมทั้งไลน์ที่กลุ่มชายฉกรรจ์ให้ตนใช้เป็นช่องทางติดต่อ

นายต๊ะ กล่าวต่อว่า เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ตนก็ไม่กล้าเปิดร้านขายกระเป๋าอีก ทำให้ปัจจุบันตนกับภรรยาไม่มีรายได้ รวมทั้งยังไม่มีเงินจ่ายคืนที่หยิบยืมจากแม่ยายมาจ่ายค่าปรับให้กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน