หนุ่มปัด ยิงหลานรองนายกอบต. ยันช่วงเกิดเหตุไลฟ์สดอยู่บ้าน ไม่เคยเห็นหน้ากัน

เรียก 2 อริคดีพยายามฆ่า เค้นสอบ ล่าไอ้โม่ง ยิงหลานรองนายกอบต. หนุ่มต้องสงสัย ยันช่วงเกิดเหตุไลฟ์สดกินเหล้าอยู่บ้าน ไม่เคยเห็นหน้ากัน ตร.คาดปมล้างแค้น

กรณีนายธนดล อายุ 27 ปี ชาว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ หลานรองนายก อบต.หูทำนบ ถูกคนร้าย2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ประกบจ่อยิง 6 นัดซ้อน กระสุนเข้าร่าง 4 นัด ถูกหามส่งโรงพยาบาล แต่รอดชีวิตมาได้ เหตุเกิดเวลา 12.30 น.วันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา เหตุการณ์ครั้งนี้ถูกนำมาเชื่อมโยงถึง นายพิทักษ์ อายุ 23 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ที่เคยใช้ปืนยิงในลักษณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 16 ส.ค.66 ครั้งนั้นกระสุนถูกรถรองนายก อบต. 6 นัด ถูกลำตัวนายธนดล 1 นัด ตำรวจดำเนินคดีในข้อหา ”พยายามฆ่า” ประกันตัวออกมาสู้คดี เพราะญาติมั่นใจว่านายธนดลไม่เคยมีศัตรูที่ไหน นอกจากนายโซ่ ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจเชิญนายพิทักษ์ ไปตรวจเขม่าปืนทันที

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 ม.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะคำ เรียกผู้ต้องสงสัย 2 คน ที่เคยเป็นอริเก่าบุกยิงถล่มบ้านรองนายก อบต.หูทำนบ เมื่อคืนวันที่ 16 ส.ค.66 มาสอบปากคำ พร้อมตรวจหาเขม่าดินปืน และลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทาง และสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นเบาะแสและหลักฐานติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล่าสุดนายพิทักษ์ หรือโซ่ อายุ 23 ปี เปิดเผยว่า ในช่วงวันและเวลาที่นายธนดลถูกยิง ตนนั่งดื่มสุรากับเพื่อนและไลฟ์สดเป็นระยะมีหลักฐานชัดเจน ที่ผ่านมาหลังมีเรื่องกับนายธนดล ตนเลิกยุ่งเกี่ยว ไม่เคยเห็นหน้ากันไม่สนใจกัน ต่างคนต่างอยู่ การที่ญาติสงสัยตนไม่ว่าอะไร เพราะเป็นสิทธิ์ส่วนตนไปแสดงความบริสุทธิ์กับตำรวจไปแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ เถียรกิตติพงศ์ ผกก.สภ.ปะคำ อ.ปะคำ ออกมาระบุว่า หลังจากเกิดเหตุเรียกนายโซ่ มาตรวจเขม่าดินปืนทันที พร้อมส่งหลักฐานไปตรวจสอบต่อที่ตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อยืนยันอีกครั้ง ทั้งนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าภาพไม่ชัดเจน โดยจะมีตรวจสอบในเชิงลึกอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังเรียกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมาประชุมเพื่อแบ่งหน้าที่ในการออกหาหลักฐานเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุ เนื่องจากคนร้ายสวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้า มีเพียงผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ และตรวจเขม่าดินปืนส่งตรวจที่ จ.นครราชสีมา

ส่วนกระสุนปืนก็ยังไม่ทราบขนาดต้องรอพิสูจน์อีกครั้ง ซึ่งก็อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมหลักฐาน เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งสาเหตุก็น่าจะเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทหรือเป็นอริกันมาก่อน

ส่วนผู้บาดเจ็บก็ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ปะคำ ซึ่งหมอได้ผ่าเอากระสุนออกแล้ว อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังอยู่ในความดูแลแพทย์อย่างใกล้ชิด