สุพรรณบุรี เตรียมทำพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต เหตุพลุระเบิดดับ 23 ศพ กลับบ้าน พร้อมเปิดโต๊ะรับข้อมูลญาติผู้วายชนม์ หาช่องช่วยเหลือด้านอื่นๆ ควบคู่มอบเงินเยียวยาเบื้องต้น

19 ม.ค. 67 – จากกรณีเกิดเหตุสลดโศกนาฏกรรมโรงงานพลุระเบิดในพื้นที่หมู่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี บ่าย 17 ม.ค.) ที่ผ่าน คร่าชีวิตคนไปถึง 23 ศพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้มีการสรุปรายชื่อไปแล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ตรวจ DNA และสอบปากคำญาติผู้เสียหาย

ความคืบหน้าล่าสุด ที่วัดโรงช้าง ต.ศาลาขาว อ.เมืองสุพรรณบุรี ดร.อุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมทีมทนายความ ลงพื้นที่สร้างขวัญและกำลังใจแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบและเสียชีวิตจากเหตุโรงงานพลุระเบิด

โอกาสนี้ ได้เป็นตัวแทน บริษัท ศักยภาพไทยอินเตอร์กฎหมายและธุรกิจ จำกัด และ บริษัท ชมเดือน คอมเพล็กซ์ จำกัด มอบเงินช่วยเหลือ ครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้ง 23 รายๆ ละ 10,000 บาท รวมเป็น 230,000 บาท พร้อมทั้งมอบเงินให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ อส. ที่ทำงานกันแบบเหน็ดเหนื่อย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และส่งทีมงานทนายความมาให้ความดูแลกับญาติผู้เสียชีวิตในด้านกฎหมาย

ดร.อุดม กล่าวว่า หลายคนโทรมาถามว่า ตนอยู่ไหน ไม่เห็นมาดูชาวบ้านเดือดร้อนจากโรงงานพลุระเบิด ส่วนสาเหตุที่ยังไม่ไป เพราะต้องให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานกันก่อน เมื่อเริ่มจัดการศพผู้วายชนม์ จึงเดินทางมามอบเงินให้กำลังใจในเบื้องต้น

ความคืบหน้าการรับศพผู้เสียชีวิต เมื่อ 18 ม.ค. ญาติมารับศพผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย วันนี้ 19 ม.ค. แจ้งญาติมารับศพเพิ่มเติมอีก 4 ราย คงเหลือที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ 11 ราย








Advertisement

ส่วนรายละเอียดดังนี้ วันที่ 18 มกราคม 2567
1.นายสมควร แจ้งวิถี วัดโรงช้าง 2.นางพเยาว์ บุญกล่อม วัดโรงช้าง 3.นางรำไพ สวยค้าข้าว วัดโรงช้าง 4.นายโสพล สวยค้าข้าว วัดโรงช้าง 5.นายวิชาญ บุญศรีวงษ์ วัดขวาง ศาลาขาว 6.นายรุ่งโรจน์ อุ่มน้อย วัดพระธาตุสวนแตง 7.นางบุญเกื้อ ทองสัมฤทธิ์ วัดลาดกระจับ 8.น.ส.น้ำฝน เกิดนอก วัดโป่งไหม ต.หนองประดู่ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี

วันที่ 19 มกราคม 2567 1.นางสุณี ขวัญอ่อน วัดโรงช้าง 2.น.ส.ภัสสร เล็กพอใจ วัดพระธาตุ ศาลาขาว
3.นางนึก บุญกล่อม วัดลาดกระจับ 4.นายธงชัย กำเนินนนท์ วัดพระธาตุสวนแตง (ฝากศพ รอรับพร้อมศพภรรยา)

สำหรับขั้นตอน การรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา เมื่อเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ทำการยืนยันการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล 1 ทางญาติ ต้องนำเอกสารหลักฐานประกอบการขอรับศพ ได้แก่

-เอกสารบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับศพ
-ทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิต
-ใบรับรองการตาย ( มีทีมแพทย์ ตั้งจุดให้บริการ)
-ใบมรณบัตร ( ทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตั้งจุดให้บริการ)

2 ในส่วนของการจัดการศพ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการบรรจุศพ และนำศพไปตั้งที่จุดประกอบพิธีทางศาสนายังวัดต่างๆ ตามที่ญาติกำหนด (ขั้นตอนทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่าย)

ส่วนของทีมเยียวยาจิตใจ หรือ mcatt จัดทีมจิตแพทย์ ประกบญาติผู้เสียชีวิต ทุกครอบครัว ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจากการประมวลข้อมูล พบว่ามีญาติผู้เสียชีวิต 55 รายที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ได้มีการจัดทีมโทรคุย ที่เจ้าหน้าที่จะโทรศัพท์ไปยังญาติของผู้เสียชีวิตแบบล็อกรายตัว โดยเปิดสายสแตนบายพูดคุยกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับการแจ้งขอรับการเยียวยา ข้อมูลจากสำนักงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี ระบุว่ามีทายาทผู้เสียชีวิตเข้ามาขอรับการช่วยเหลือเยียวยาแล้วทุกราย

ดร.อุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมิได้เข้ามาในพื้นที่เพราะต้องการให้เจ้าหน้าที่ทำงาน อย่างเต็มที่ แต่ขอมาให้กำลังใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย และในฐานะที่เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี ในพื้นที่จะช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มความสามารถ

นอกจากนี้ยังมีครอบครัวที่พ่อแม่เสียชีวิต แต่ลูกกำลังศึกษาอยู่ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 6 โรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย ตนในฐานะของนายกสมาคมศิษย์เก่าฯ จะประสานให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ นายวราวุธ ยังฝากความห่วงใย มาให้กับทุกๆท่าน ส่วนการช่วยเหลือเยียวยา จากกระทรวง พม. ขอให้ญาติลงชื่อแจ้งข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ ของ พม.ในวันนี้เพื่อรับเงินเยียวยา ในเบื้องต้น

ดร.อุดม กล่าวต่อว่า นายวราวุธ ยังกล่าวกับตนว่าถ้ามีหน่วยงานใดของเอกชนสามารถที่จะช่วยเหลือผู้เดือดร้อนได้ก็ให้รีบช่วยเหลือ ตนในฐานะที่ปรึกษานายกสภาทนายความ ร่วมกับ บริษัท ศักยภาพไทยอินเตอร์กฎหมายและธุรกิจ ซึ่งตนเคยเป็นผู้ดูแลอยู่ จะเข้าไปดูแลในเรื่องของคดีความต่างๆ ที่ทางภาครัฐจะต้องจ่ายเงินให้กับเรา หรือทายาทที่แท้จริง ซึ่งทีมทนายจะดำเนินการให้

ถ้าประสงค์จะให้สภาทนายความเข้ามาช่วยเหลือ เราก็จะรีบทำให้ทันที เพราะเมื่อยื่นคำร้องแล้ว จะใช้เวลาอย่างน้อย 15 วัน ไม่สามารถจะยื่นคำร้องได้วันนี้พรุ่งนี้ กว่าจะได้คำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดกต้องใช้เวลาอีก 30-45 วัน กว่าจะได้รับเงินก็จะช้า

ดังนั้นเราต้องรีบทำ และดำเนินการจัดการให้ทั้งหมดโดยไม่มี จะประสานให้ความช่วยเหลือ ค่าใช้จ่ายให้ทนายความตั้งโต๊ะรับข้อมูลญาติผู้เสียชีวิตเหตุพลุระเบิด ให้การช่วยเหลืออำนวยความสะดวกด้านธุรกรรมทางกฎหมาย สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ประสานกับสภาทนายความภาค 7 และสภาทนายความ จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานภาคี เปิดโต๊ะรับข้อมูลจากญาติผู้สูญเสีย เหตุสถานประกอบการพลุระเบิดจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบพิจารณา หาช่องทางการช่วยเหลืออื่นๆ นอกจากการช่วยเหลือจากระเบียบของทางราชการต่อไป

นอกจากนี้จะใช้เป็นข้อมูล ในการให้ความช่วยเหลือการดำเนินการ อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบหรือข้อกฎหมาย เช่นเรื่องของการรับสิทธิอื่นๆ การจัดการมรดก ทั้งนี้เป็นการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก ให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ในเรื่องของธุรกรรมทางกฎหมาย

ขณะที่ การนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่ เร่งดำเนินการ อย่างต่อเนื่อง และจะต้องรักษาสภาพที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปตรวจสอบสาเหตุการเกิดระเบิดให้ได้มากที่สุด เป็นเรื่องที่ต้องละเอียดอย่างมาก ต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น ซึ่งเมื่อช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ได้พิสูจน์เพิ่มอีก 4 ราย รวมเป็น 12 ราย

หลังจากนั้น ดร.อุดม โปร่งฟ้า ได้ลงพื้นที่ไปดูความเสียหายจุดที่เกิดเหตุพลุระเบิด ว่ามีไฟส่องสว่างเพียงพอไหม พร้อมประสานงานการไฟฟ้าให้มาติดตั้งดูแล ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ เพราะอาจจะได้รับอันตราย อาจมีการระเบิดเกิดขึ้นอีกก็ได้

ส่วนเวลา 16.00 น. ทางญาติของผู้เสียชีวิต จะได้นิมนต์พระมาอันเชิญวิญญาณของผู้เสียชีวิต เพื่อกลับบ้าน ซึ่งเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ให้เจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อม เตรียมสายสิญจน์ ให้กับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน