ออกหมายจับ “อาร์ม หัวสะพาน” ประกบยิง หนุ่มหน้าตาดี ดับสลด พ่อเหยื่อ เปิดปมแค้นลงมือเหี้ยม เผย เป็นหลานนายพลตำรวจ วอนตำรวจดำเนินคดีอย่างจริงใจ
จากกรณีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ ยี่ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีเทาดำ ประกบยิง นายสุทัศน์ (ขอสงวนนามสหุล) อายุ 30 ปี พ่อค้าขับรถเร่ขายของตามหมู่บ้าน เสียชีวิต บนถนนเพชรเกษม(ขาขึ้น กรุงเทพ) ม.10 ต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมา ศาลจังหวัดเพชรบุรี อนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุคือ นายภีมวัจน์ หรือ อาร์ม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาวต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนไปในทางหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ออกหมายจับ “อาร์ม หัวสะพาน” ประกบยิง หนุ่มหน้าตาดี ดับสลด พ่อเหยื่อ เปิดปมแค้นลงมือเหี้ยม
ล่าสุดวันที่ 31 ม.ค.2567 พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี ได้ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จว.เพชรบุรี ลงพื้นที่สืบสวนติดตามตัวอยู่ตลอดเวลา คิดว่าใช้เวลาอีกไม่นาน หากได้รับความคืบหน้าอย่างไรจะรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน
พ.ต.อ.วันชัย กล่าวต่อว่า ส่วนมูลเหตุของการก่อเหตุยังคงมุ่งไปปมประเด็นเรื่องชู้สาว อย่างไรก็ตาม เราต้องถามผู้ต้องหาอีกครั้งหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยมีปัญหากันมาก่อน ซึ่งน่าจะเป็นมูลเหตุให้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้
พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี
Advertisement
ด้าน นายธง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี พ่อของผู้ตาย กล่าวว่า สาเหตุของการลงมือสังหารครั้งนี้น่าจะมาจากประเด็นเรื่องของการหึงหวง และประเด็นความแค้นเพราะลูกชายของตนรู้จักกับแฟนของนายภีมวัจน์ ผู้ก่อเหตุ มาตั้งแต่สมัยเรียน
นายธง กล่าวต่อว่า โดยนายภีมวัจน์น่าจะเห็นว่าลูกชายของตนไปพูดคุยกับทางแฟนสาว แล้วเกิดการเข้าใจผิดขึ้น เกิดอาการหึงหวง เพราะนายภีมวัจน์มักมีนิสัยขี้หึงหวง ที่ผ่านมาหากมีใครไปคุยกับแฟนสาวของตน มักจะตามไปหาเรื่องทะเลาะวิวาทอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งนายภัมวัจน์ยังเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับลูกชายของตนมาก่อนหน้านี้ด้วย
นายธง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี พ่อของผู้ตาย
“ผมอยากขอและวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือผมให้เร่งรัดคดี และปฏิบัติตามกฎหมายในคดีลูกของผม เพราะผมไม่รู้จักใคร อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังเป็นหลานของอดีตนายพลตำรวจชื่อดังเมืองเพชร ผมไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือจากใคร จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคดีอย่างจริงใจ เพราะผมไม่รู้จักพึ่งใครแล้ว” นายธง กล่าว
