น่ากลัวมาก สาวนั่งรถทัวร์ เจอชายหลอนใช้มีดแทง ทั้งที่ไม่รู้จักมาก่อน ตร.เผยผลตรวจ มีประวัติรักษาทางจิต คนเจ็บวอนการออกตั๋วโดยสาร

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น เผยแพร่ภาพเหตุการณ์ที่ ตำรวจจราจร สภ.พล ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณแยกมิตรภาพ อ.พล จ.ขอนแก่น เข้าควบคุมตัวนายสหัสวรรษ อายุ 24 ปี ชาวจ.มหาสารคาม พร้อมอาวุธมีดปลายแหลม ยาวประมาณ 20 ซม. หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดดังกล่าวทำร้าย น.ส.นิตยา อายุ 31 ปี ชาวจ.อุดรธานี ได้รับบาดเจ็บที่แขนสองข้าง ก่อนจะประสานแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัยมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นปลอดภัยอยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลพล ก่อนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ลักษณะคล้ายคนมีอาการหลอนจากสารเสพติด จึงควบคุมตัวไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาล

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่มาที่บริเวณสี่แยกไฟแดง ถ.มิตรภาพ ฝั่งขาเข้าเมืองขอนแก่น ในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล จ.ขอนแก่น จุดที่รถทัวร์คันดังกล่าวมาจอดส่งผู้โดยสารลง โดยพบว่ามีรอยเลือดหยดเป็นทางยาว 2 จุด และพบกองเลือดขนาดใหญ่ริมถนน มีรอยเลือดหยดเป็นทางยาวลงถนน และพบเสื้อผ้าของผู้ก่อเหตุอยู่ริมถนน

นายทองใบ ทองยศ อายุ 67 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างประจำจุดศาลารอรถ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนไม่อยู่ จะมีวินจักรยานยนต์อื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์โทรศัพท์มาบอกเล่าให้ฟัง ว่าเกิดเหตุคนแทงกัน ทีแรกทุกคนคิดว่าเป็นผัวเมียทะเลาะกัน จึงยังไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม โดยวินจักรยานยนต์ที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ช่วงที่รถทัวร์สายโคราช-อุบลราชธานี มาจอดส่งผู้โดยสารที่จุดนี้ตามปกติ จะมีผู้โดยสารลงจากรถเป็นจำนวนมากและหญิงที่ถูกทำร้ายก็ลงจากรถด้วยเช่นกัน คาดว่าจะกลัวความไม่ปลอดภัย เนื่องจากทุกคนบนรถลงจนเกือบหมด พอลงมาก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย เป็นฝ่ายชายไล่ทำร้ายฝ่ายหญิง ทั้งเตะทั้งตีก่อนจะใช้มีดไล่แทงจนได้รับบาดเจ็บ แล้วชายดังกล่าวก็วิ่งหลบหนีไปฝั่งตรงข้าม กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับควบคุมตัวเอาไว้ได้ ช่วงที่เกิดเหตุนั้นไม่มีใครทราบว่า ชายดังกล่าวก่อเหตุทำไม แต่คาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากยาเสพติด

พ.ต.อ.พีระฉัตร สาขา ผกก.สภ.พล เดินทางไปที่หอผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง รพ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อเยี่ยมและดูอาการของ น.ส.นิตยา อายุ 31 ปี ผู้บาดเจ็บ

โดย น.ส.นิตยา ให้การว่า มีสามีเป็นชาวต่างชาติ เมื่อสามีเดินทางกลับแล้ว จึงเดินทางด้วยรถโดยสาร เพื่อจะไปพักผ่อนกับพ่อแม่ที่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม โดยขึ้นรถโดยสารที่ บขส.นครราชสีมา ขณะกำลังเก็บกระป๋าที่ใต้ท้องรถก็มีนายสหัสวรรษ ซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อน ยืนจ้องพร้อมกับถามว่าจะไปลงที่ไหน จึงตอบว่าลงบรบือ จากนั้นจึงเดินไปเข้าห้องน้ำและก็เดินขึ้นไปนั่งบนรถ พบว่าเบาะที่ 5 และ 6 ว่าง จึงเข้าไปนั่งที่เบาะชิดด้านในคือเบาะที่ 5 จากนั้นนายสหัสวรรษก็มานั่งคู่ และจ้องอยู่ตลอดเวลา จนรู้สึกกดดันและอึดอัดเป็นอย่างมาก

“ทนนั่งไม่ได้และลุกออกมายืน พนักงานประจำรถจึงถามขึ้นมาว่า มีใครจะลงที่อ.พลบ้าง จึงตอบว่าลง เมื่อรถทัวร์โดยสาร จอดที่ริมถนนมิตรภาพ ใกล้ศาลาที่พักผู้โดยสาร จึงลงจากรถพร้อมผู้โดยสารรายอื่นๆอีกหลายคน ขณะกำลังก้มเอากระเป๋าใต้ท้องรถ นายสหัสวรรษก็มาถีบจนล้มลง จากนั้นเข้ามาแทงหลายครั้ง จึงต่อสู้ พร้อมกับมีผู้โดยสารและพนักงานประจำรถมาช่วย นายสหัสวรรษจึงวิ่งหนีไป

โดยส่วนตัวเคยมีความวิตกกังวลว่าเดินทางคนเดียวจะไม่ปลอดภัย จนมาเกิดเหตุขึ้นจริงกับตัวเอง จึงคิดว่าคนที่เดินทางคนเดียวควรตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วว่าเบาะข้างที่นั่งเรา คนที่นั่งด้วยเป็นชายหรือหญิง เพื่อจะเลือกที่นั่งได้ อาจจะเกิดความปลอดภัยกว่าที่ไม่รู้ และขอฝากถึงนายสหัสวรรษ ว่าอย่าทำแบบนี้กับใครอีกเลย เกิดเหตุขึ้นมามีคนเจ็บแล้วมันแก้ไขยาก ส่วนตัวเองเมื่อบาดเจ็บแล้วก็คงให้อภัย แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย








Advertisement

พ.ต.อ.พีระฉัตร กล่าวว่า คนเจ็บนั้นมีอาการปลอดภัยแล้ว และสามารถให้การได้แล้ว โดยยืนยันว่า ให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายสหัสวรรษ ในส่วนของนายสหัสวรรษ นั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางเข้าพบนั้น นอนหลับอยู่จึงยังไม่ได้สอบสวน ซึ่งจากการสอบถามจากแพทย์รพ.พล ทราบว่า ได้ติดต่อกับมารดาของนายสหัสวรรษแล้ว ทราบว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช เมื่อเดือนม.ค.66 มารดาพาเข้ารักษาตัวที่รพ.จิตเวชขอนแก่น แพทย์ทำการรักษาและให้ยาไปรับประทานที่บ้านและแพทย์ก็นัดพบเพื่อรักษาตัวต่อเนื่อง แต่นายสหัสวรรษ ไม่กินยาและไม่ไปรักษาตามหมอนัด และอยู่ที่บ้านเรื่อยมา จากนั้นก็บอกกับมารดาว่า จะเข้าไปหางานทำในกรุงเทพฯกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว

“เมื่อแพทย์ รพ.พล ตรวจอาการในเบื้องไม่พบสารเสพติด จึงคาดการณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกิดจากภาวะทางอารมณ์และทางจิต หลังจากนายสหัสวรรษตื่น แพทย์รพ.พล ก็จะส่งตัวนายสหัสวรรษ ไปรักษาต่อที่รพ.จิตเวชขอนแก่น ในส่วนของคดีที่ใช้มีดแทง น.ส.นิตยา อายุ 31 ปี หากนายสหัสวรรษ ให้ปากคำได้ ก็จะสอบสวนและแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น และดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน