“กรมทะเล” ถือฤกษ์ดีปล่อยเรือ “โลมา” ลงน้ำ ทุ่มงบ 168 ล้าน เสริมทัพภารกิจอนุรักษ์-ฟื้นฟู-ปกป้องทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของไทย

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 13 ก.พ. ที่บริษัท ซีเครสท์ มารีน จำกัด เลขที่ 98 ม.2 ถ.ท้ายบ้าน ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประธานในพิธี พร้อมด้วยคุณสมถวิล วงษ์สุวรรณ ภริยา เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 (โลมา) ลงน้ำ โดยการเชิญมิ่งขวัญและมงคลสู่เรือเจิมป้ายชื่อเรือ ปิดทอง ผูกผ้าสามสี คล้องพวงมาลัย โปรยข้าวตอกดอกไม้ และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ตามประเพณีโบราณที่มีมาอย่างยาวนาน


ในการนี้มี ร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรมว.ทส. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) นายศุภมิตร ชิณศรี ผวจ.สมุทรปราการ พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร. นายอุกกฤต สตภูมินทร์ ผอ.กองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล นายวรพจน์ ทรัพย์เกิด ผู้ตรวจราชการทช. นายทวีผล เหมังกร และนายธนภัทร เหมังกร กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีเครสท์ มารีน จำกัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทช. เข้าร่วมในพิธี


พล.ต.อ.พัชรวาท เปิดเผยว่า กรม ทช. ได้ดำเนินการต่อเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 นามเรียกขาน “โลมา” เพื่อใช้ในภารกิจด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำรวจระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง ติดตามช่วยเหลือสัตว์ทะเล ตรวจสอบ และป้องกันการบุกรุกทำลายในพื้นที่ทะเลอ่าวไทย และเกาะต่างๆ ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนชุมชนชายฝั่ง ซึ่งเรือถือเป็นพาหนะหลักและมีความสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทางทะเล พร้อมด้วยอุปกรณ์ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัย ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำเรื่องการบูรณาการการทำงานร่วมกับเครือข่ายภาคีต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาคเอกชน ตลอดจนพี่น้องชุมชนชายฝั่ง เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และประชาชนในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง ร่วมด้วยช่วยกันในการสอดส่อง ปกป้อง คุ้มครองดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อไป


ด้าน ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรม ทช. ได้มีพิธีวางกระดูกงูเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 ในห้วงเดือนส.ค. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้พร้อมปล่อยเรือดังกล่าวปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย โดยอยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (จ.สุราษฎร์ธานี จ.ชุมพร) เรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 มีขนาดความยาว 80 ฟุต สามารถปฏิบัติภารกิจในสภาพทะเล Sea State 2 มีอุปกรณ์สนับสนุนนักประดาน้ำ การฝึกดำน้ำ อุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับการดำน้ำ ตลอดจนช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลอีกด้วย รวมงบประมาณที่ใช้ในการจัดสร้างเรือดังกล่าวทั้งสิ้น 168,500,000 บาท ทั้งนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติภารกิจของหน่วยงาน โดยใช้พาหนะ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน รวมถึงดูแลปกป้องทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้สมบูรณ์ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน