เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 2 พ.ย.59 ที่ร้านอาหารทองไทย อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายกษิดิศ พ่อค้าไทย (นามสกุลพ่อค้าไทย) นำสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลในกระชังแม่น้ำโขง อ.ท่าบ่อ แปรรูปปลานิลที่เลี้ยงไว้ ทำปลานิลแดดเดียว และบรรจุใส่ถุงสูญญากาศถุงละ 1 ก.ก. โดยนายสาธิต คำกองแก้ว ประมงอำเภอท่าบ่อ นายบุญสัน อนารัตน์ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอท่าบ่อ ร่วมดูแลการแปรรูปอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้คุณภาพและถูกสุขอนามัย
นายกษิดิศ กล่าวว่า กลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลกระชังแม่น้ำโขง สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพันธุ์ปลานิลให้เกษตรกรได้เลี้ยงจนมีอาชีพ มีรายได้มาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อพระองค์สวรรคต พวกตนรู้สึกเศร้าเสียใจมาก และอยากแสดงออกถึงความจงรักภักดี แต่ไม่มีอะไรจะตอบแทนพระองค์ท่านได้ จึงหารือกับเจ้าหน้าที่ประมง ได้ข้อสรุปว่าจะนำปลานิลที่เลี้ยงไว้มาทำปลานิลแดดเดียว ส่งไปช่วยเป็นคลังอาหาร โดยประสานกับกลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลในจังหวัดหนองคายทุกกลุ่ม ตั้งเป้าไว้จำนวน 3,000 กิโลกรัม แต่ช่วงเวลาแค่สัปดาห์เดียวผู้เลี้ยงปลานิลได้แจ้งยอดที่จะนำปลานิลเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้มาแล้วถึง 7,000 กิโลกรัม นับเป็นเสียงตอบรับและเป็นเสียงสะท้อนว่าผู้เลี้ยงปลานิลทุกคนต้องการแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ด้านประมงอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า ประมงและกลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลกระชัง จะนำปลานิลแดดเดียวที่ทำกันนี้ มอบต่อนายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ในวันที่ 3 พ.ย. เป็นรอบแรก จำนวน 200 กิโลกรัม เพื่อให้ทางจังหวัดส่งไปยังกรุงเทพฯ นำไปประกอบอาหารสำหรับเลี้ยงประชาชนที่เดินทางไปกราบสักการะเบื้องหน้าพระบรมโกศพระบรมศพ ที่ท้องสนามหลวง
ขณะที่ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอท่าบ่อ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ติดตามดูการแปรรูปปลานิลแดดเดียวอย่างใกล้ชิด พบว่า ทุกขั้นตอนทำถูกสุขลักษณะ ถูกสุขอนามัย รสชาติอร่อย ผู้ที่ได้รับประทานมั่นใจในคุณภาพได้เลย
