ร้องไห้ระงม กระบะซิ่ง ชนครู-นักเรียน ทำกิจกรรมลูกเสือ ที่ศาลาริมทาง สลดดับ 2 ราย บาดเจ็บอีกจำนวนมาก คนขับหลบหนี ก่อนเข้ามอบตัวในภายหลัง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ก.พ.2567 ที่ อ.สะเดา จ.สงขลาได้เกิดอุบัติเหตุรถกระบะขับมาด้วยความเร็วเสียหลัก พุ่งชนนักเรียนชั้นประถมและครูที่กำลังทำกิจกรรมลูกเสือ ในศาลาริมทางบาดเจ็บ 15 คน และเสียชีวิต 2 คน

เหตุเกิดขึ้นในพื้นที่บ้านพรุเตียว หมู่ 5 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ตำรวจ สภ.สะเดา รับแจ้งเหตุลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพสำนักขาม เจ้าหน้าที่กู้ชีพไม้ขม โรงพยาบาลสะเดา พานักเรียนและครูที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลสะเดา โรงพยาบาลปาดังเบซาร์และที่อาการหนักถูกส่งต่อโรงพยาบาลหาดใหญ่

รายงานว่ามีนักเรียนบาดเจ็บทั้งหมด 14 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 7 คน และ ครูผู้หญิง 1 คน ชื่อ ครูพัชรี อินทะเล อายุ 42 ปี ในจำนวนนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด มี 2 คน ที่เสียชีวิตระหว่างส่งโรงพยาบาลคือ ด.ญ.อัสนานี (สงวนนามสกุล) และ ด.ช.สุริยะ (สงวนนามสกุล)

ในที่เกิดเหตุพบ รถกระบะ อีซูซุ สีบรอนซ์เทา ทะเบียนชนติดอยู่กับต้นมะม่วง หลังจากพุ่งเข้าไปชนเด็กนักเรียนที่ทำกิจกรรมอยู่ในศาลาริมถนน ทำให้เสาศาลาหักหลังคาเอียงลงมา โดยคนขับอาศัยช่วงชุลมุนหลบออกไปจากจุดเกิดเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะด็กนักเรียนชั้นประถมโรงเรียนบ้านพรุเตียว ทำกิจกรรมลูกเสือเดินทางไกลและแวะทำกิจกรรมตามฐานต่างๆที่กำหนดไว้ เมื่อมาถึงศาลาริมถนน ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานกิจกรรมได้เข้าไปรวมกันอยู่ในศาลา

รถกระบะซึ่งขับมาด้วยความเร็วเสียหลักพุ่งเข้าไปชนนักเรียนที่อยู่ในศาลาประมาณ 20 คนและครู จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง แทบไม่มีใครกระโดดหลบได้ทัน ข้าวของเครื่องใช้สำหรับเดินทางไกลกระจัดกระจาย เสียงร้องไห้ระงมด้วยความเจ็บปวดและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สอบถาม นายมูฮัมหมัด เซนมุลิ ผอ.โรงเรียนบ้านพรุเตียว กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุมีนักเรียนมาทำกิจกรรมเดินทางไกล 20 คน และเมื่อวานนี้ (20 ก.พ) ครูได้ตรวจสอบเส้นทางเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน บางจุดที่อันตรายได้ตัดออกไป และไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งทั้งครูและนักเรียนต่างอยู่ในความตกใจ

รายงานว่าคนขับรถล่าสุดได้เข้าพบตำรวจ สภ.สะเดาแล้ว ทราบชื่อ นายวิษณุ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ตำรวจได้พาตรวจไปตรวจแอลกอฮอล์และหาสารเสพติดในร่างกาย และจะดำเนินการสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน