ไฟไหม้กุฎิไม้สักวอดทั้งหลัง หลวงตา รอดหวุดหวิด ลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก เผยป่วยร่างกายไม่สมบูรณ์ ถ้าไม่ลุกมา คงถูกไฟคลอกแน่ โชคดีไม่มีใครเป็นอะไร

นนทบุรี : เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 27 ก.พ.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุมีไฟไหม้กุฎิ ในวัดตำหนักใต้ ถ.สนามบินน้ำ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงประสานขอความช่วยเหลือจากรถดับเพลิงเทศบาลนครนนทบุรี เพื่อสกัดไฟที่กำลังลุกไหม้

ที่เกิดเหตุเป็นกุฎิไม้สักยกใต้ถุนสูง เรือนที่ 8 ของ พระธีรวุฒิ สุทธิอาภา อายุ 60 ปี 23 พรรษา ซึ่งจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว กำลังยืนมองไฟที่กำลังลุกไหม้ด้วยความตกใจ

พระธีรวุฒิ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณตี 3 ตนลุกออกมาเข้าห้องน้ำกลางดึกที่ชั้นล่าง ขณะกำลังเดินขึ้นกลับไปที่ห้อง ได้กลิ่นเหม็นไหม้เหมือนกลิ่นของสายไฟ จึงเดินหาที่มาของกลิ่นพบว่าสายไฟฟ้าที่มุมห้องด้านขวา กำลังลุกไหม้ติดไฟ และสายไฟที่ลุกติดไหม้หยดใส่กองผ้าจีวรเก่าจนเกิดไฟลุกไหม้ตามมาอย่างรวดเร็ว

ตนพยายามเอาผ้าห่มไปคลุมทับเพื่อจะดับไฟแต่ไม่เป็นผล ไฟยังคงลุกไหม้อยู่ จึงพยายามลงไปเอาถังน้ำมาราดดับไฟ แต่เนื่องจากตนอายุเยอะแล้วประกอบกับป่วยหลายโรค ทำให้ไม่สามารถดับไฟที่กำลังลุกไหม้ในกุฎิได้ทัน จึงไปเคาะเรียกพระในวัดรูปอื่นๆ ให้มาช่วยดับไฟ แต่ไม่ทันการ

เนื่องจากตัวเรือนกุฎิเป็นไม้สักอย่างดี ทำให้ติดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยเปลวไฟยังลามไปติดฝาผนัง ซึ่งเป็นไม้สักของกุฎิเรือนที่ 7 ด้วย แต่สามารถช่วยกันสกัดไฟที่กำลังลุกลามได้ทัน ส่วนกุฎิตนเองไฟไหม้วอดทั้งหมด

พระธีรวุฒิ กล่าวอีกว่า หากเมื่อคืนนี้ตนไม่ลุกมาเข้าห้องน้ำกลางดึกเสียก่อน คงถูกไฟคลอกเสียชีวิตในกุฎิแน่นอน เนื่องจากป่วยเรื้อรัง ทำให้ไม่สามารถลุกเดินได้สะดวก ส่วนทรัพย์สินที่ถูกไฟเผาไปหมด มีทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ทือถือ 2 เครื่อง ตู้เย็น ทีวี และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง โดยไม่สามารถขนหรือหยิบอะไรติดออกมาได้เลย เพราะไฟลุกไหม้รุนแรงมาก โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำพระธีรวุฒิในที่เกิดเหตุ พร้อมกับบันทึกภาพสถานที่เกิดเหตุทั้งหมดแล้ว โดยหลังจากนี้จะรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในกุฎิที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อสรุปสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน