ฟังอีกมุม ตร.เผยผลสอบปากคำ หนุ่มลูกหนี้ ผวาถูกเจ้าหนี้ขู่อุ้ม หอบลูกเมียนอนป้ายรถเมล์ พบกู้เงินประจำหลายเจ้า เตือนอย่านำโครงการรัฐเป็นเครื่องมือชักดาบ

จากกรณี นายมนตรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พร้อมด้วย น.ส.สุทธิดาพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี สองสามีภรรยาพาลูกชายวัย 12 ขวบ นักเรียนชั้น ป.6 หลบหนีออกจากบ้านเช่า หลังถูกเจ้าหนี้เงินกู้รายวันส่งลูกน้องมาตามทวงหนี้ที่หน้าบ้านและข่มขู่ว่าถ้าไม่หาเงินมาจ่ายค่าดอกเบี้ยจะพานั่งรถตู้ไปปรับความเข้าใจนั้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 เดินทางมายังสภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อประชุมและตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว พร้อมกับ นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี และ น.ส.วรรณี วุฒิฤทธากุล นายอำเภอเมืองนนทบุรี

ฟังอีกมุม ตร.เผยผลสอบปากคำ หนุ่มลูกหนี้ ผวาถูกเจ้าหนี้ขู่อุ้ม หอบลูกเมียนอนป้ายรถเมล์ พบกู้เงินประจำหลายจำ

ฟังอีกมุม ตร.เผยผลสอบปากคำ หนุ่มลูกหนี้ ผวาถูกเจ้าหนี้ขู่อุ้ม หอบลูกเมียนอนป้ายรถเมล์ พบกู้เงินประจำหลายจำ

จากการตรวจสอบข้อมูลของฝ่ายปกครองพบว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.66 นายมนตรีพร้อมภรรยาได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ไกล่เกลี่ยเงินกู้นอกระบบที่ว่าการอำเภอเมืองนนทบุรีไปแล้วครั้งหนึ่ง

โดยครั้งนั้นได้อ้างเหตุผลกับทางอำเภอว่าถูกเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบโทรมาขู่จะขับรถชนให้ตาย หลังนายมนตรีไม่มีเงินจ่ายค่าดอกเบี้ยรายวัน นายมนตรีอ้างว่ากู้เงินนอกระบบมาจากนายทุนเงินกู้ 3 เจ้า รวมเป็นเงิน 3.6 หมื่นบาท

ต่อมาทางอำเภอได้นัดหมายไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ให้นายมนตรีไป โดยมีเจ้าหนี้บางรายยอมยกหนี้ให้กับนายมนตรีไปเพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาตามมา จนกระทั่งนายมนตรีมาตกเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อหอบลูกกับเมียหนีเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบมาหลบอยู่ที่ป้ายรถประจำทางเพราะไม่กล้ากลับเข้าบ้าน

พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ ประสานให้เจ้าหนี้เงินกู้ที่นายมนตรีและภรรยาได้ไปกู้ยืมมา มาสอบสวนเรื่องการข่มขู่จะอุ้มนายมนตรีขึ้นรถตู้ไปทำร้ายหลังไม่จ่ายดอกเบี้ย

โดยทางเจ้าหนี้เงินกู้รายนี้ เปิดเผยต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองในที่ประชุม พร้อมกับยืนยันว่า ไม่เคยพูดหรือข่มขู่นายมนตรีเลยสักครั้งว่าจะเอารถตู้ไปอุ้มนายมนตรีมาทำร้าย

เพียงแต่บอกว่ามีอะไรให้มาคุยกัน แต่นายมนตรีไม่ยอมและไปกล่าวหาใส่ร้ายตนเองต่าง ๆ นานา ว่าเป็นนายทุนจาก ปปส.บ้าง อ้างว่าเคลียร์กับตำรวจในพื้นที่บ้าง จนกลายเป็นข่าวใหญ่โตเดือดร้อนกันไปหมด ทั้ง ๆ ที่ตนก็เป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป

ในวันที่นายมนตรีเข้ามาขอกู้ยืมเงินจากตนเอง จำนวน 1.5 หมื่นบาท ได้หอบเอาลูกเมียมาด้วยโดยอ้างว่าจะนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งนายมนตรีก็รับปากเป็นอย่างดีว่าสามารถหาเงินส่งรายวันให้ได้ ตนจึงตัดสินใจให้นายมนตรีหยิบยืมเงินจำนวนดังกล่าวไป

ซึ่งก็ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่านายมนตรีจะมีพฤติกรรมในลักษณะนี้ คือเมื่อหาเงินมาจ่ายให้ตามสัญญาไม่ได้ ก็ไปแจ้งไปร้องสื่อว่าถูกเจ้าหนี้ข่มขู่จะทำร้ายจนต้องหลบหนีออกไปนอนนอกบ้านกัน เรียกร้องความสนใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองลงมาช่วยเหลือเจรจาให้ยกหนี้หรือยืดระยะเวลาการใช้หนี้ออกไปเหมือนกับในครั้งแรกที่ไปร้องเรียนกับทางอำเภอเมืองนนทบุรีมาแล้วครั้งหนึ่ง

ซึ่งเรื่องนี้ตนในฐานะคนปล่อยเงินกู้ก็อยากให้ทางสังคมรับฟังด้วยใจที่เป็นกลางว่า เวลาเดือดร้อนมาขอหยิบยืมเงินจากตนเองไปหมุนไปใช้ กติกายังไงก็ยอมรับได้ ตนไม่ได้เอาปืนไปจี้ไปบังคับให้เขาต้องมากู้เงินจากตนไป

แต่พอกู้ไปแล้วหาเงินส่งให้ไม่ได้พอถูกตามทวงถาม ก็มาอ้างว่าข่มขู่ ร้องขอความช่วยเหลือไปทั่วว่าจะถูกทำร้าย พฤติกรรมแบบนี้อยากให้ลองคิดดูว่าใครหัวหมอกว่ากัน เหมือนต้องการล้มหนี้ที่กู้ยืมไปโดยไม่ต้องคืนเงินหรือที่เรียกว่า ชักดาบ

พ.ต.อ.สมพล กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดพบว่าลูกหนี้รายนี้มีพฤติกรรมเที่ยวหยิบยืมเงินจากคนปล่อยกู้ทีละหลายเจ้า ลักษณะเหมือนกู้เงินโปะกันไปมา จนกระทั่งไม่สามารถหาเงินมาส่งได้ไหว ก็จะร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อจากเพจและบุคคลที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ไปทั่ว เพื่อให้ลงมาช่วยเหลือเจรจากับคนปล่อยเงินกู้ให้

พ.ต.อ.สมพล กล่าวต่อว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือฝ่ายปกครองยื่นมือเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยกับทางเจ้าหนี้ให้ ทำให้เจ้าหนี้บางรายตัดความลำบากยกหนี้ให้ไป บางรายก็ยืดไปให้ผ่อนเป็นรายเดือนแทนรายวัน

พ.ต.อ.สมพล กล่าวอีกว่า แต่นายมนตรีก็ยังไม่เข็ดหลาบไปหากู้หยิบยืมจากคนปล่อยเงินกู้รายใหม่ ๆ มาแทนอีก ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้เหมือนยืมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจกับฝ่ายปกครองไปกดดันเจ้าหนี้หรือคนปล่อยเงินให้กู้ยืมแทน

พ.ต.อ.สมพล กล่าวว่า ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลมีโครงการตลาดนัดแก้หนี้นอกระบบ เพื่อไม่ให้ฝ่ายเจ้าหนี้ไปติดตามทวงหนี้กับลูกหนี้ด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ โดยตั้งใจให้ลูกหนี้กับเจ้าหนี้ได้พูดคุยหาทางออกทางเจรจาร่วมกันด้วยความเข้าใจ แต่กลับถูกลูกหนี้บางรายนำโครงการนี้มาใช้ผิดวัตถุประสงค์ ผิดความตั้งใจของรัฐบาล ทั้งที่รัฐบาลผลักดันโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อหวังช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนจริง ๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนำตัวนายมนตรีและฝ่ายเจ้าหนี้ที่ปล่อยเงินกู้ให้กับนายมนตรีมาสอบปากคำแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหากับเจ้าหนี้รายนี้ในข้อหา คิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แม้ว่าเจ้าหนี้รายนี้จะยินยอมยกหนี้ จำนวน 1.5 หมื่นบาทให้กับนายมนตรีเพื่อตัดปัญหาไปแล้วก็ตาม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน