ดาบตำรวจ คล้ายคนเมา ขับเก๋งพุ่งชนรถเมล์ อ้างเกียร์มีปัญหา ส่งตรวจแอลกอฮอล์ 15 วันรู้ผล เผยนาทีเกิดเหตุ ขับถอยหลังเดินหน้าชนอีก 3 ครั้ง

สืบเนื่องเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.อิศรัฐ ตันสุ สารวัตร(สอบสวน) สภ.พระประแดง รับแจ้งเหตุรถเก๋งชนท้ายรถโดยสารปรับอากาศ และถอยหลังไปชนรถที่จอดข้างทาง 2 คันได้รับความเสียหาย บริเวณถนนนครเขื่อนขันธ์ ใกล้ปากซอยนครเขื่อนขันธ์ 8 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุพบรถโดยสารปรับอากาศ สีน้ำเงิน ทะเบียน 16-6354 กรุงเทพฯ เป็นรถโดยสารปรับอากาศสาย 82 วิ่งระหว่างพระประแดง-พาหุรัด จอดอยู่ช่องทางด้านซ้าย และช่วงด้านท้ายรถเมล์มีร่องรอยการเฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย

ดาบตำรวจ คล้ายคนเมา ขับเก๋งพุ่งชนรถเมล์ อ้างเกียร์มีปัญหา ส่งตรวจแอลกอฮอล์ 15 วันรู้ผล

ดาบตำรวจ คล้ายคนเมา ขับเก๋งพุ่งชนรถเมล์ อ้างเกียร์มีปัญหา ส่งตรวจแอลกอฮอล์ 15 วันรู้ผล

และพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส ทะเบียน ฌจ9891 กรุงเทพฯ สภาพด้านหน้าของรถเก๋งได้รับความเสียหายกระจกหน้าแตกและช่วงท้ายรถเก๋งมีร่องรอยการเฉี่ยวชน

ตรวจสอบพบมีรถกระบะที่จอดอยู่ข้างทางถูกรถเก๋งถอยไปชนได้รับความเสียหายอีก 2 คัน หลังเกิดเหตุมีคนขับรถเก๋งเดินลงมาจากรถด้วยอาการคล้ายมึนเมา ทราบชื่อคือ ด.ต.พินิจ (ขอสงวนนามสกุล) ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.พระประแดง

ชาวบ้านจึงเข้าไปถาม ด.ต.พินิจ อ้างว่าระบบเกียร์ของรถมีปัญหาเกิดขัดข้อง แต่โชคดีเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวด.ต.พินิจ ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และนำตัวไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่โรงพยาบาลบางปะกอก 3

จากนั้นตำรวจได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่จุดเกิดเหตุแล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้พอชาวบ้านคู่กรณีทราบว่า เจ้าของรถเก๋งหรือคนขับรถเก๋งเป็นตำรวจ จึงเข้ามารุมดูและมีการพูดคุยนี่ตำรวจยังเมาเลย

ด้าน พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง ได้รับรายงานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อิศรัฐ พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายและให้ตรวจวัดแอลกอฮอล์

จากนั้น จึงได้นำตัวด.ต.พินิจไปเจาะเลือดตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่โรงพยาบาลบางปะกอก 3 ต้องรอผลตรวจภายใน 15 วัน หากผลตรวจออกมาพบว่า ด.ต.พินิจ มีความผิดจริงก็ดำเนินการตามกฎหมาย

ส่วนวินัยจัดตั้งธุรการตรวจสอบข้อเท็จจริงหากพบว่าผิดจริงก็จะทำการลงโทษทางวินัยเช่นว่ากล่าวตักเตือนทำทัณฑ์บน กักขังยามหรือลงโทษเข้าเวร และกักขังทำโทษทางวินัยประมาณ 3 วัน และในช่วงนี้ ด.ต.พินิจ อยู่ในช่วงเข้าอบรมนายร้อย 53 โรงเรียนฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 1

ขณะที่ ด.ต.พินิจ คนขับรถเก๋ง กล่าวว่า น่าจะเป็นที่ระบบเกียร์ของรถนั้นมีปัญหา ถึงได้ขับชนและถอยหลังเดินหน้าไปชนอีกถึง 3 ครั้ง

ส่วน นายพิทยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี กล่าวว่า ตนขับรถโดยสารรับผู้โดยสารตามปกติ ถึงจุดเกิดเหตุบริเวณแยกนิตยา หรือแยก 86 รู้สึกว่ามีรถมาชนท้าย จึงจอดรถแล้วลงไปดู ปรากฏว่ามีรถเก๋งมาชนท้าย และจู่ ๆ รถคันดังกล่าวได้ถอยหลังไปชนรถจอดข้างทางอีก 2 คัน

นายพิทยา กล่าวต่อว่า จากนั้นพุ่งตรงมาที่รถของตนชนซ้ำเข้าไปอีก 2 ครั้ง จนคนแถวนั้นต้องวิ่งมาดู และบอกให้คนขับรถคันดังกล่าวใส่เกียร์ว่างดึงเบรกมือ และลงจากรถเพื่อความปลอดภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน