แม่สุดทน ลูกชาย นักเรียนชั้น ป.5 ไม่ทำการบ้านส่ง ถูกครูทำโทษใช้ไม้หวายตีก้นจนช้ำ นั่งไม่ได้ แถมท้าให้ไปแจ้งความ ยัน เอาเรื่องถึงที่สุด ชี้เกินกว่าเหตุ

วันที่ 1 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.รัศมี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ได้นำภาพถ่ายร่องรอยเขียวฟกช้ำที่บริเวณก้นของลูกชายคือ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งใช้ประกอบเป็นหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกับครูที่ทำโทษด้วยการใช้ไม้เรียวตี

ด.ช.เอ กล่าวว่า ตนขาดเรียนเนื่องจากป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ กระทั่งหายป่วยได้ไปเรียนตามปกติ จนถึงเวลาเรียนกับคุณครูวิชาสุขศึกษาได้ประกาศหน้าห้องเรียนว่าใครไม่ได้ทำการบ้านมาให้ออกมาหน้าห้อง

แม่สุดทน ลูกชาย นักเรียนชั้น ป.5 ไม่ทำการบ้านส่ง ถูกครูทำโทษใช้ไม้หวายตีก้นจนช้ำ นั่งไม่ได้ แถมท้าให้ไปแจ้งความ

แม่สุดทน ลูกชาย นักเรียนชั้น ป.5 ไม่ทำการบ้านส่ง ถูกครูทำโทษใช้ไม้หวายตีก้นจนช้ำ นั่งไม่ได้ แถมท้าให้ไปแจ้งความ

ด.ช.เอ กล่าวต่อว่า ตนและเพื่อนอีกหลายคนออกไปที่หน้าห้อง คุณครูไม่ได้สอบถามถึงสาเหตุอะไรที่ไม่ทำการบ้าน ใช้ไม้หวายตีที่ก้นเรียงทีละคน พอมาถึงตนคุณครูใช้ไม้หวายตีที่ก้นของตนอย่างแรงจำนวน 3 ครั้ง ซึ่งตีแรงกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ เมื่อโดนตีตอนนั้นตนรู้สึกเจ็บปวดมาก จนนั่งที่เก้าอี้ไม่ลง

ด้าน น.ส.รัศมี กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ตนหัวใจแทบสลาย หลังทราบว่า ลูกชาย ถูกครูตีด้วยไม้หวายที่ก้นจนเป็นรอยแผลฟกช้ำขนาดใหญ่ไม่สามารถนั่งหรือนอนหงายได้ ว่า ทีแรกรู้ว่าลูกชายบอกว่าถูกคนทำโทษ ไม่คิดอะไรเพราะคิดว่าครูจะทำโทษนักเรียนปกติ

น.ส.รัศมี กล่าวต่อว่า ลูกชายบ่นว่านั่งไม่ได้เจ็บก้น จึงเปิดก้นให้ดูตกใจมากไม่คิดว่าจะถูกตีรุนแรงขนาดนี้ ตนมองว่ามันเกินกว่าเหตุไป ครูทำโทษได้ สั่งสอนลูกเราได้ แต่ไม่ใช้วิธีการที่รุนแรงแบบนี้ และควรที่จะสอบถามเด็กก่อนว่าสาเหตุอะไรที่ไม่ทำการบ้าน เนื่องจากลูกมีโรคประจำตัวเป็นโรคภูมิแพ้








Advertisement

น.ส.รัศมี กล่าวอีกว่า ถึงแม้ลูกชายจะหยุดเรียนก็ไม่เคยได้มีผลกระทบกับการเรียนซึ่งมีเกรดเฉลี่ยได้ 2 และ 3 มาตลอด แต่ครั้งนี้ลูกชายหยุดเรียนเพราะป่วย จึงไม่ได้ทำการบ้าน ลูกเมื่อตอนเรียน ป.2 เคยถูกคุณครูคนเดียวกันตีมาแล้วจนก้นเขียวช้ำเหมือนกัน ได้มีการพูดคุยกัน ขอโทษกันไม่ได้มีการแจ้งความ จนมาเกิดเหตุซ้ำอีก

น.ส.รัศมี กล่าวด้วยว่า ตนจึงไปที่โรงเรียนเพื่อสอบถามพูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ขอโทษและไม่อยากเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนกระทั่งได้มีการพูดคุยกับคุณครูคนดังกล่าว แต่ไม่รู้สึกสำนึกผิด ยังมีการท้าทายให้ตนไปแจ้งความ

น.ส.รัศมี กล่าวว่า จึงได้พาลูกเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางครูที่ลงโทษลูกชายของตนให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นตัวอย่างว่าวิธีการทำโทษเด็กไม่จำเป็นต้องตีเด็กเกินกว่าเหตุ ควรตักเตือนหรือใช้วิธีอื่นที่ดีกว่านี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน