คนขับรถพยาบาลแฉฝรั่งชูนิ้วกลาง เผยตั้งแต่วันนั้น เรื่องยังวุ่นวายไม่จบ ถูกแจ้งความกลับ

จากกรณีแพทย์หญิงแจ้งความร้องทุกข์ถูกชายชาวต่างชาติเตะเข้าที่หลัง ระหว่างนั่งตรงบันไดหน้าชายหาดตรงหน้าวิลล่าที่ชายต่างชาติอาศัยอยู่ เหตุเกิดที่ จ.ภูเก็ต ก่อนเรื่องจะบานปลายเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า บันไดของวิลล่าดังกล่าวรุกที่สาธารณะ จึงถูกสั่งให้รื้อออก ส่วนชายต่างชาติที่ก่อเหตุอาจถูกเพิกถอนพาสปอร์ตด้วย นอกจากนี้ยังมีคลิปชายต่างชาติขับแช่ขวา ยกนิ้วกลางให้รถพยาบาลด้วย อ่านข่าว เพิ่งไหว้ไปหยกๆ แฉความกร่าง ฝรั่งเตะหมอ ขับแช่ขวา ชูนิ้วกลางใส่รถพยาบาล แถมแจ้ง พ.ร.บ.คอมพ์

ล่าสุดวันที่ 2 มี.ค.67 ว่าที่ ร.ต.วิบูลย์ ฮ้อบุตร คนขับรถพยาบาลคันดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 25 ธ.ค.66 เวลา 20.21 น. ตนได้รับมอบหมายให้ขับรถพยาบาลของ รพ.ถลาง ไปสแตนบายศูนย์ฉีดวัคซีนที่ห้างโรบินสัน สาขาถลาง ระหว่างขับไปเลยวงเวียนอนุสาวรีย์แล้วไปยูเทิร์นที่บ้านหยี่เต้ง แต่ระหว่างที่ขับไปเรื่อยๆ ก็มีชายชาวต่างชาติ ขับรถยนต์ออร์ดี้ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ก 8881 ภูเก็ตขับมาแทรกขวาแล้วตัดหน้า ตนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

หลังจากนั้นเขาลดกระจกทำลักษณะมืออ้อมหลังคาเหมือนกับให้ตนไปซ้าย แต่จุดประสงค์คือต้องกลับรถ หลังจากนั้นเขาก็โชว์นิ้วกลางให้ตน พร้อมทำมือเป็นปืนจ่อหัว พอไปถึงจุดขับรถเขาก็ลดกระจกแล้วชูนิ้วกลางพร้อมกับคำพูดว่า f…k you ด้วยความโมโหก็เลยตะโกนด่ากลับไป หลังจากนั้นเขาก็ขับหนีตนไปจนถึงหน้าวัดท่าเรือ แต่เขาหนีไม่ได้เพราะว่ารถติด สุดท้ายก็มาอยู่หน้ารถตนเหมือนเดิม จนไปถึงอนุสาวรีย์เขาก็แยกย้ายไปทางฝั่งเชิงทะเล ตนก็แวะโรบินสัน สาขาถลาง

หลังจากนั้นตนก็โพสต์คลิปลงในโซเชียล ก่อนจะไปแจ้งความเพราะกังวลเรื่องที่ชายคนดังกล่าวทำท่าปืนจ่อหัว หวั่นเกิดอันตราย กระทั่งวันที่ 29 ธ.ค.66 ตำรวจ สภ.ถลาง ติดต่อตนมาว่า คู่กรณีแจ้งความไว้ที่ สภ.เชิงทะเล ก่อนที่จะประสานเพื่อนัดพูดคุยกับคู่กรณี จนวันที่ 3 ม.ค. ตนพาแฟนและพยานเพื่อไปไกล่เกลี่ยและรับทราบรายละเอียดต่างๆ พอเข้าไปในห้องพูดคุยก็มีฝรั่ง ภรรยา และตำรวจ จนตนมาทราบว่าตนมีความผิด พอคุยจบแยกย้าย จึงได้ยกมือไหว้ขอโทษฝรั่ง และฝรั่งก็ไหว้ตนกลับ ก่อนที่ตนจะหันไปไหว้ภรรยา แต่ว่าเขาไม่รับไหว้ แถมมองตนด้วยความอาฆาต

ต่อมาวันที่ 10 ม.ค. ตำรวจ สภ.เชิงทะเล ติดต่อมาแจ้งเตือนว่า คู่กรณีต้องการให้ตนลบโพสต์ แต่ก่อนที่จะลบโพสต์ให้ตนแคปหน้าจอทั้งหมดที่ตนโพสต์ไปแล้วกลับมาโพสต์อีกครั้งหนึ่ง กลับถึงบ้านตนก็ได้แคปหน้าจอและโพสต์ตามที่ตำรวจแจ้งมา หลังจากนั้นวันที่ 11 ม.ค. พอไปถึงไม่เจอคู่กรณี หลังจากที่นั่งรอได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามาถามว่าทำงานที่ไหน เงินเดือนเท่าไร มีลูกมีเมียไหม คุยไปตามที่เขาถาม

หลังจากนั้นตำรวจแจ้งว่าให้ตนโพสต์ให้ติดต่อกัน 7 วัน ก็เลยถามว่าหลังจากโพสต์ครบ 7 วันแล้วเขาจะถอนแจ้งความหรือไม่ ตำรวจก็บอกว่าขึ้นอยู่กับความพอใจของคู่กรณี หลังจากนั้นไม่นานก็เบอร์เดิมโทรเข้ามาอ้างว่าเป็นผู้การ บอกว่าเปลี่ยนเป็นให้ตนทำคลิปโพสต์ 7 วัน ตนก็รับปาก

จากนั้นวันที่ 17 ม.ค. ตำรวจก็นัดให้ตนไปคุยอีกครั้ง โดยอ้างว่าผู้กำกับต้องการที่จะพูดคุยในส่วนของเรื่องนี้ พอวันรุ่งขึ้นตนก็ได้ไปที่ สภ.เชิงทะเล และได้พบกับผู้กำกับและคู่กรณี ซึ่งมีทนายมาด้วย ส่วนตนก็ได้พาแฟนไป แต่คุยกันไม่ลงตัว จุดประสงค์คือให้ตนโพสต์ขอโทษ แต่เคลียร์ไม่ลงตัวคือการให้การแบบนี้ไม่โอเค ตนก็เลยบอกว่าแบบนี้ได้ไหมให้ทนายพิมพ์มาคำขอโทษต่างๆ นี้ว่าโอเคไหม

หลังจากนั้นทนายก็พิมพ์มาและตนกับแฟนได้อ่าน หลังจากอ่านแล้วแฟนก็พาลที่ประโยคสุดท้ายกับคำว่าต่อไป ตนจะไม่โกหกและไม่ทำตัวแย่ๆ แบบนี้อีกแฟนตนก็บอกว่าขอคัดค้านเพราะไม่ได้โกหกมันเป็นเรื่องจริงและโต้เถียงกันด้วยคำว่าโกหกให้อีกฝั่งถอนคำว่าโกหกแล้วถึงจะโพสต์ ถ้าไม่ถอนก็จะไม่โพสต์ ต่างก็โต้เถียงกันไปมา ตนก็ได้เดินออกจากห้อง หลังจากนั้นผู้กำกับก็พูดว่าถ้าตนไม่โพสต์ จะต้องติดคุกประมาณ 3-4 ปี

จากนั้นวันที่ 27 ก.พ. ตำรวจ สภ.เชิงทะเล ให้ตนไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันรุ่งขึ้น ตนก็รับปากเพราะโทรมาในเวลากลางวัน แต่ตอนเย็นตนมีภารกิจด่วนซึ่งไม่ได้ไป จึงโทรไปหาตำรวจ 2 สายแต่ไม่รับก็เลยส่งไลน์ไปหา จนถึงตอนนี้ตำรวจยังไม่เปิดอ่าน ตนดูแล้วว่าให้ตนไปรับทราบข้อกล่าวหา ถ้าตนประสานไปแต่ไม่สามารถติดต่อได้ถ้าหากมีกรณีผิดพลาดอย่างไรตนก็กลัวมีความผิด ซึ่งวันนี้ตนได้ดูจากสื่อบางสื่อเรื่องการเคลียร์กับคู่กรณี ตนขอชี้แจงว่าตนไม่ได้ค่าชดเชยอะไรสักอย่างจากคู่กรณีเลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน