แม่คาใจ ร.ต.อ. บุกห้องพักทำโทษ ส.ต.ต. จนน่วมต้องเข้าโรงพยาบาล ปมไม่ลงบันทึกการเข้าเวร เห็นสภาพลูกสุดช้ำ พาไปแจ้งความ ผกก. บอกเรื่องของตร.ให้เคลียร์กันเอง

วันที่ 6 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางละออง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี แม่ของ ส.ต.ต.นายหนึ่ง ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม โรงพักแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา เนื่องจากยังคาใจ

หลังจาก ร.ต.อ.นายหนึ่ง ลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาเกินกว่าเหตุ แค่ไม่ได้ลงบันทึกการเข้าเวร ก่อเหตุบุกเข้าไปทุบตี ส.ต.ต.หัสดิน ถึงห้องพัก จนต้องเข้าโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา

แม่คาใจ ร.ต.อ. บุกห้องพักทำโทษ ส.ต.ต. จนน่วมต้องเข้าโรงพยาบาล ปมไม่ลงบันทึกการเข้าเวร เห็นสภาพลูกสุดช้ำ

แม่คาใจ ร.ต.อ. บุกห้องพักทำโทษ ส.ต.ต. จนน่วมต้องเข้าโรงพยาบาล ปมไม่ลงบันทึกการเข้าเวร เห็นสภาพลูกสุดช้ำ

โดย ส.ต.ต. ได้โทรศัพท์บอกน้าสาวว่า ถูกลงโทษได้รับบาดเจ็บ น้าสาวไม่เชื่อจึงได้วิดีโอคอล เห็นหลานเจ็บและเหนื่อย จึงบอกให้รีบไปหาหมอ ก่อนพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาล ขณะที่เข้ารับรักษาตัวในคืนเกิดเหตุ ส.ต.ต.ได้ไลน์หา รอง ผกก.โรงพักต้นสังกัด ระบายความเจ็บปวด

ก่อนที่รองผกก.ได้สอบถามใครหัวหน้า ใครสั่งลงโทษ โดย ส.ต.ต. บอกว่า ร.ต.อ. ทำโทษเอง ทำแบบนี้ตนเองไม่ไหวจริง ๆ แค่กล่าวตักเตือนยังดีกว่า ทำแบบนี้ตนเองจุกไปหมด ช้ำ ตีตนเองแรงใช้อารมณ์ แค่เรื่องเอกสาร ร.ต.อ.ว่าตนเองเถียง แค่เรื่องนี้ทำกับตนเองแบบนี้

โดยเมื่อเช้าวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา นางละออง ทราบข่าวได้เดินทางจาก จ.พัทลุง ไปเยี่ยมลูกชายพร้อมกับน้าสาวและยาย เมื่อเห็นลูกชายถึงกับเข่าทรุด ถูกทำร้ายจนเจ็บไปทั้งตัว พร้อมทั้งไม่มีใครดูแล

นางละออง กล่าวว่า การลงโทษโดยทุบตีปางตายแบบนี้ มันไม่ใช่การลงโทษปกติแล้วเป็นการลงโทษที่ใช้อารมณ์เกินเหตุ ตนรับไม่ได้ ผิดก็ลงโทษตามวินัยตามธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ใช่ใช้ความรุนแรง และลูกชายนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งคืนไม่มีใครมาดูแล

นางละออง กล่าวต่อว่า จนรู้ว่าตนมา เพื่อนตำรวจได้มาขอเคลียร์ว่าอย่าเอาเรื่อง ผบ.หมู่เลย ตนไม่อาจรับได้ และได้พาลูกชายเข้าแจ้งความ แต่พนักงานสอบสวนไม่รับ พร้อมทั้ง ผกก. บอกว่าเรื่องของตำรวจให้เคลียร์กันเอง แต่ลูกของตนเจ็บแบบนี้ไม่อาจรับได้ ก่อนที่จะนำตัวลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บกลับมารักษาตัวต่อที่ จ.พัทลุง

นางละออง กล่าวอีกว่า หลังจากนี้หากลูกกลับไปทำงานที่เดิมคงลำบาก เพราะหัวหน้าไม่ถูกกับลูกน้องอาจจะถูกกลั่นแกล้งได้

ด้าน นางสุดา (ขอสงวนนามสกุล) น้าสาว กล่าวว่า ใจหายเมื่อเห็นหลานถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ได้ไปแจ้งความ พนักงานสอบสวนบอกต้องให้คนเจ็บมาแจ้งเองก่อนนำหลานมาจากโรงพยาบาลเพื่อแจ้งความ

นางสุดา กล่าวต่อว่า แต่ทางผู้กำกับไม่ให้รับแจ้งความ บอกเรื่องดังกล่าวขอคุยกันก่อน โดยจะให้ผู้การเข้ามาคุยในวันนี้ ตนรู้สึกไม่สบายใจเลยพาหลานกลับมารักษาตัวต่อที่ จ.พัทลุงบ้านเกิด ทั้งที่อาการยังบาดเจ็บหนักบอบช้ำข้างใน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน