เมื่อเวลา 02.15 น. วันที่ 8 มี.ค. สายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.เมืองระนอง ที่จอดหน้าตลาดสดเทศบาลเมืองระนอง พบเห็นรถจักรยานยนต์รุ่นเก่าขับโดยวัยรุ่น ได้ขับรถจักยานยนต์หลบหนีชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 50 ปี ที่เมาแล้วขับรถซาเล้งพ่วงข้าง พร้อมมือถือมีดงอ ไล่ติดตามวัยรุ่นคนดังกล่าว ไปตามเส้นทางรอบเมืองระนอง โดยสายตรวจรถจักรยานยนต์ ได้ขับรถไล่ติดตามรถซาเล้งอีกทอดหนึ่ง พร้อมขอกำลังรถยนต์สายตรวจเข้าทำการสนับสนุน ก่อนสามารถควบคุมชายที่อยู่ในอาการมึนเมาไว้ได้ที่บริเวณแยกตลาดพม่า ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ภายหลังขับไล่ติดตามเป็นระยะทาง 3-5 กิโลเมตร
จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบชื่อนายแสน อุบลรัตน์ อายุ 50 ปี ส่วนคู่กรณีคือนายอานนท์ เพ็ชรวัง อายุ 29 ปี ที่อยู่หน้าปากซอยเดียวกัน โดยเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายแสนได้ใช้มีดไล่ฟันนายอานนท์มาแล้วรอบหนึ่ง และได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองระนอง ก่อนจะเดินทางกลับบ้านและพบกับคู่กรณีที่ดักรออยู่แถวหน้าบ้าน ก่อนจะเร่งจักรยานยนต์คันเก่าที่ไม่มีเบรกไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจสายตรวจที่หน้าตลาดสด โดยมีนายแสนเงื้อมีดงอเพื่อจะไล่ฟันพร้อมขับซาเล้งไล่ติดตาม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าระงับเหตุไว้ได้ทัน ก่อนจะยึดมีดงอด้ามยาวประมาณ 1 เมตร ที่เหน็บไว้ข้างรถซาเล้งคันดังกล่าว
จากการสอบสวนนายแสน ให้การในสภาพมีการมึนเมาว่า ตนไม่ได้ทะเลาะกับใคร ส่วนสาเหตุมาจากการที่ตนดึงสายไฟผ่านบนพื้นถนนหน้าบ้าน เพื่อไปเชื่อมเหล็กที่โรงซ่อม เพื่อนบ้านได้กล่าวหาว่าเดี๋ยวจะมีไฟชอร์ตคน ตนจึงถามว่าจะชอร์ตใคร และโชว์ริมฝีปากด้านในที่ตนถูกซ้อม โดยวัยรุ่น 10 กว่าคนมาซ้อมตนคนเดียว ที่แถวบ้านของตน ทั้งนี้ ตนทำมาหากินไม่ได้ไปยุ่งกับใครแล้ว จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เดินทางไปตกลงและพูดคุยกันที่สภ.เมืองระนอง
ด้าน นายอานนท์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนถูกไล่ฟันมารอบหนึ่งแล้ว จึงเดินทางมาแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจ ส่วนสาเหตุตือเมาแล้วอาละวาด พอตนกลับจากซื้ออาหารและกลับไปบ้าน นายแสนได้ขี่รถซาเล้งไล่ฟันตน ซึ่งตนไม่อยากทำอะไรนายแสนเพราะถ้าทำก็ทำไปนานแล้ว
ทั้งนี้ ที่สภ.เมืองระนอง ยังพบโจทย์คู่กรณีของนายแสนอีก 2 ราย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านในละแวก ได้เล่าสาเหตุและพฤติกรรมของนายแสน ทั้งเรื่องการลากสายไฟเก่าและเปื่อย ผ่านบนพื้นถนน ที่อาจจะเกิดอันตรายกับเด็กๆและคนผ่านไปมาได้ พอมีปัญหาก็เอามีดพร้างอมาเที่ยวขู่ชาวบ้าน พร้อมยืนยันไม่มีวัยรุ่นคนไหนไปชกต่อยนายแสน พฤติกรรมจะเมาแบบนี้ทุกวันจนชาวบ้านเอือมระอากันทั้งซอย
จากการสอบปากคำนายแสน และคู่กรณี ไม่สามารถสอบปากคำนายแสนได้ เพราะไม่รู้ว่าอะไรเรื่องจริงหรือเรื่องไม่จริง สุดท้าย ร้อยเวรพนักงานสอบสวน ให้สิบเวรพาไปพักผ่อน ฝากขังให้สงบสติอารมณ์และพายเมาสุราเสียก่อน และจะทำการสอบสวนข้อเท็จจริง ในกรณถูกแจ้งข้อหาใช้อาวุธมีดพยายามฆ่า ในช่วงเช้าวันนี้ต่อไป โดยนายแสนก็เดินตามเจ้าหน้าที่เข้าห้องฝากขัง ไม่มีการโวยวายแม้แต่น้อย
