กกล.บูรพา จับมือ กัมพูชา ร่วมรณรงค์แก้ไขปัญหา PM 2.5 อย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม

วันที่ 6 มี.ค.67 ตามที่ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุม ครม. เรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ติดตามสถานการณ์ปัญหาจุดความร้อนหรือ hotspot และให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหาเชิงรุกเร่งด่วน

ทั้งนี้ ผบ.ศปก.ทบ. ได้กรุณาสั่งการให้ กกล.ป้องกันชายแดน ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์หยุดการเผาหรือทำการอื่นใดที่ก่อให้เกิดหมอกควัน ส่งผลเสียต่อสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อม

ผบ.ศปก. ทภ.1 จึงได้สั่งการให้ กกล.บูรพา และ กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว บูรณาการกับส่วนราชการในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ร่วมกับ หน่วยงานของ จ.บันเตียเมียนเจย และ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา โดยพลตรี เทพพิทักษ์ นิมิตร ผบ.กกล.บูรพา และพลตรี ลาย กึม ฮวด รอง หน.สน.ปทก.ร่วมประชุมส่วนราชการในพื้นที่ชายแดน ทั้ง 2 ประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ร่วมกัน

โดยที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่า ควรจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนหยุดเผาหรือทำการอื่นใดที่ก่อให้เกิดหมอกควัน รวมถึงร่วมกันแก้ไขปัญหาตามแผนงานราชการไทย และ กัมพูชา โดยที่ผ่านมา กกล.บูรพา ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาฯ เร่งด่วนในพื้นที่ 4 อำภอชายแดน จังหวัดสระแก้ว และพื้นที่จังหวัดคู่มิตรของกัมพูชา อาทิ

1.ติดตั้งป้ายรณรงค์หยุดเผาหรือทำการอื่นใด ที่ก่อให้เกิดหมอกควันตามจุดสำคัญในพื้นที่อำเภอชายแดน เช่น จุดผ่อนปรนทางการค้า, จุดผ่านแดนถาวร หรือพื้นที่ชุมชนที่มีประชาชนของทั้ง 2 ประเทศอยู่ร่วมกันหนาแน่น จำนวน 8 จุด

2.ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือในการหยุดเผา หรือทำการอื่นใดที่ก่อให้เกิดหมอกควัน เพื่อลดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่อำเภอชายแดน จำนวน 38 ครั้ง

3. หน่วยเฉพาะกิจป้องกันชายแดน หน่วยงานราชการในพื้นที่ และ มวลชนของหน่วย (อส.กร.)หน่วยงานราชการของกัมพูชา ร่วมเดินขบวนรณรงค์ในพื้นที่อำเภอชายแดนทั้ง 2 ประเทศ จำนวน 9 ครั้ง

โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ประชาชนในพื้นที่ตระหนักถึงการลดการเผา นำมาซึ่งผลการแสดงจุดความร้อน และค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดทั้งพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชา

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน