พบ ทายาทสกุลดัง เคยเล่นหนังหลายเรื่อง ร่วมแสดง สรพงศ์ ชาตรี หดหู่บั้นปลายชีวิต ตกอับ หมดตัว เล่าประวัติในอดีต ต้นตระกูล ธุรกิจเพียบ ก่อนถูกลูกเลี้ยงเชิดเงิน

วันที่ 8 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีทายาทตระกูลดัง “อิศรางกูร ณ อยุธยา” ตกอับ งานไม่มี หมดตัว ไม่มีงานทำ แถมยังต้องเลี้ยงดูแม่วัย 85 ปีที่ป่วยติดเตียงและหลานชายอีก 2 คนเพียงลำพัง ภายในบ้านเช่าเก่า ๆ ย่านคลองสี่ จ.ปทุมธานี

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 21 ม.7 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยสถานที่ดังกล่าว แบ่งเป็นห้องเช่าจำนวนกว่า 20 ห้อง พบกับ น.ส.นวรัตน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 64 ปี กำลังทำกับข้าวอยู่บริเวณหน้าห้องเช่าดังกล่าว

พบ ทายาทสกุลดัง เคยเล่นหนังหลายเรื่อง ร่วมแสดง สรพงศ์ ชาตรี หดหู่บั้นปลายชีวิต ตกอับ หมดตัว เล่าประวัติในอดีต ต้นตระกูล

พบ ทายาทสกุลดัง เคยเล่นหนังหลายเรื่อง ร่วมแสดง สรพงศ์ ชาตรี หดหู่บั้นปลายชีวิต ตกอับ หมดตัว เล่าประวัติในอดีต ต้นตระกูล

น.ส.นวรัตน์ เล่าประวัติความเป็นมาว่า ตนมีเชื้อสายสกุล “อิศรางกูร ณ อยุธยา” มาจากคุณยายทวดคือ หม่อมหลวงจีบ อิศรางกูร ณ อยุธยา ซึ่งเป็นคุณย่าของ พ.ท.อนงค์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ซึ่งก็คือคุณพ่อของตนเอง เดิมทีตนไม่เคยเดือดร้อนหนักขนาดนี้ซึ่งก็มีอยู่มีกินตามสถานะโดยที่ครอบครัวตนดูแลมาอย่างดี

น.ส.นวรัตน์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านั้นตนทำอาชีพเปิดร้านอาหาร คาราโอเกะ รวมถึงแสดงภาพยนตร์มาหลายเรื่อง ซึ่งก็เคยแสดงกับคุณสรพงศ์ ชาตรี พระเอกดังมาโดยตลอด ก่อนที่จะมาถึงจุดตกอับนั้นได้ทำร้านอาหารหลายอย่างเกือบ 40 ร้าน ประกอบกับเรารับเลี้ยงทั้งลูกและหลานของญาติพี่น้องมาหลายสิบชีวิตสมัยที่ยังมีเงินอยู่ แต่กิจการดีบ้างไม่ดีบ้างแต่ก็พออยู่ได้

น.ส.นวรัตน์ กล่าวอีกว่า แต่มาลำบากแสนสาหัสก็คือลูกเลี้ยงคือนายสุริยะที่เลี้ยงมาตั้งแต่วัยรุ่นนั้น สร้างความเดือดร้อนกับตน คือเขามาขอยืมเงินเพื่อจะไปประกอบธุรกิจจำนวน 500,000 บาทแต่ไม่พอ ตนจึงได้นำบ้านซึ่งเป็นที่อาศัยชิ้นสุดท้ายนำไปขายเพื่อให้เขาไป จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้นายสุริยะยังไม่มีการติดต่อกลับมารับผิดชอบแต่อย่างใด








Advertisement

น.ส.นวรัตน์ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ลำบากมาก ไม่คิดว่าตนจะมีสภาพแบบนี้ จึงฝากวอนนายสุริยะให้กลับมาดูแลบ้าง หรือว่าให้ช่วยเหลือตนโดยการเปิดร้านให้ตนขายของสักร้านก็ได้ เพราะตนยังพอทำได้อยู่ เพื่อนำรายได้ในแต่ละวันนำไปดูแลทั้งแม่ที่ป่วยติดเตียงอยู่และหลานชายอีก 2 คนที่ตนดูแลอยู่บ้างก็ได้

น.ส.นวรัตน์ กล่าวว่า ตนลำบากมาก จึงฝากวอนหากใครที่อยากจะมาเช่าเครื่องเสียงที่ตนเคยเปิดร้านอาหารอยู่ก็สามารถมาเช่าได้ เพื่อตนจะได้นำเงินตรงนี้ไปต่อชีวิตในแต่ละวันได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน