พ่อสาว 19 เปิดใจ พร้อมคืนเงินสินสอด บางส่วนที่คืนได้ ไม่รู้ทำไมลูกไปผูกแขนกับแฟนวัย 70 ตอนนี้ลูกสาวยังไม่กลับบ้าน ตามมากๆ กลัวเตลิด ไม่รู้ลูกมีแฟนใหม่

กรณี นายชูชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ชาว จ.อุทัยธานี ถูก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี หลอกทั้งเงินหลอกทั้งใจหมดตัว อยู่กินกันได้แค่เพียง 1 เดือน สุดท้ายหนีไปอยู่กับแฟนใหม่ ไม่กลับมา โดยวันที่ 29 ม.ค.67 ทำพิธีสู่ขอผูกแขน ด้วยสินสอด 20,000 บาท ทองคำหนัก 1 บาท จากนั้นย้ายไปอยู่ที่บ้านสาว19 ที่จ.อุทัยธานี ก่อนสาวหนีไปอยู่กับแฟนใหม่ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.67 กรณีเหตุชายชาวจังหวัดอุทัยธานี วัย 70 ปี ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดช้ำใจ หลังโดนแฟนว่าวัย 19 ปี ที่ผูกข้อมืออยู่กินกันได้แค่เพียง 1 เดือน ตีตัวออกห่างก่อนปันใจไปให้ชายอื่น เผยหมดค่าสินสอด ค่าอื่นๆ อีกนับ 2 แสนบาท

นายชูชาติ อายุ 70 ปี ชาว จ.อุทัยธานี เปิดเผยว่า ตอนนี้เสียทั้งเงินเสียทั้งใจมากๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนในครั้งนี้ เริ่มต้นตนรู้จักกับน.ส.เอ ผ่านเพื่อนๆ ซึ่งแนะนำให้ตนรู้จัก จากนั้นก็โทรศัพท์พูดคุยติดต่อกันมาอยู่ได้สักระยะ

ซึ่งก็ทราบว่าน.ส.เอ นั้น มีลูกติดแล้ว 1 คน แต่ก็ตัดสินใจทำพิธีสู่ขอผูกแขนกันตามประเพณีอยู่กินกัน เมื่อวันที่ 29 ม.ค.67 มูลค่าสินสอดนั้นเป็นเงินสด จำนวน 20,000 บาท ทองคำหนัก 1 บาท จากนั้นตนก็ย้ายไปอยู่ที่บ้านของ น.ส.เอ ที่อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี

นายชูชาติ เปิดเผยว่า ระหว่างที่อยู่กับน.ส.เอ นั้น ทางครอบครัวของน.ส.เอ ก็พูดจากับตนดีไม่มีอะไร โดยน.ส.เอ นั้นก็ให้ตนช่วยลงทุนเลี้ยงหมู จำนวน 50 ตัว เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท เลี้ยงไก่ จำนวน 500 ตัว เป็นเงินประมาณ 5,000 กว่าบาท

และก่อนหน้านี้ ก็ซื้อมือถือไอโฟน 13 ราคา 20,000 บาทไปให้อีกด้วย แต่หลังจากที่พิธีผูกแขนอยู่กินกันมาได้แค่เพียง 5 วัน แต่หลับนอนด้วยกันจริงๆ แค่ 3 วัน น.ส.เอ ก็เริ่มเปลี่ยนไป มักแอบหนีไปเที่ยว ไม่กลับบ้าน บางวันกลับมาอีกทีก็เช้าของอีกวัน

นายชูชาติ กล่าวต่อว่า ซึ่งทำพฤติกรรมแบบนี้มาตลอด ตนต้องโทรตามอยู่บ่อยครั้ง จนมาสุดท้ายที่โทรศัพท์ไปตามก็มีผู้ชายรับโทรศัพท์ของน.ส.เอ พอตนถามว่าเป็นใคร เสียงผู้ชายคนนั้นก็ตอบกลับมาว่า เป็นแฟนของน.ส.เอ ทำให้ตนนั้นต้องน้ำตาตกใน เพราะตอนที่ตกลงปลงใจผูกแขนกับน.ส.เอ นั้น ก็หวังจะช่วยกันทำมาหากิน และหวังฝากผี ฝากไข้กันยามเริ่มแก่ชรา

แต่กลับมาถูกเด็กสาวรุ่นหลานหลอกให้ช้ำใจ ซ้ำยังต้องมาเสียเงินไปรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท อีกด้วย พอคิดไตร่ตรองเหตุการณ์ก็มั่นใจว่า แบบนี้น่าจะเป็นการหลอกลวงกัน ซึ่งก็อยากได้เงินที่เสียไปก้อนนี้คืนมา เพราะมันเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของตนเองเหมือนกัน

ด้าน นายธีระพล อายุ 54 ปี พ่อของ น.ส.เอ อายุ 19 ปี กล่าวว่า เหตุการณ์ของปัญหานั้น น่าจะเริ่มจากวันที่ลูกสาว ไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนซึ่งตนสอบถามเรื่องนี้มาจากนายชูชาติ ซึ่งที่ผ่านมาลูกสาวของตนก็เป็นนักเรียนดีเด่น ส่วนสาเหตุที่มาตกลงปลงใจผูกแขนกับ คุณตาวัย 70 ปี คือนายชูชาติ คนนี้ได้อย่างไรก็ไม่ทราบ รู้แค่เพียงว่า ทั้งคู่ไปรู้จักกันที่บ้านตาเคลิ้ม จนกระทั่งมาผูกแขนกันดังกล่าว ซึ่งวันที่ทำพิธีผูกแขนกันนั้นตนก็อยู่ด้วย ค่าผูกแขนวันนั้นก็เป็นเงินสด จำนวน 20,000 บาท ทองคำหนัก 1 บาท

นายธีระพล กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นนายชูชาติ ก็มากินนอนอยู่ที่บ้านของตน ซึ่งก็จำไม่ได้ว่ากี่คืน หลังจากนั้นก็ไม่รู้เรื่องเลยว่าทั้ง 2 คนมีเรื่องราวอะไรกัน และจนตอนนี้ลูกสาวก็ยังไม่กลับมาที่บ้านเลย ตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปตามลูกกลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิมได้อย่างไร เพราะอีกใจก็กลัวว่าถ้าตามมากๆ ลูกจะเตลิดหนีหายไปไกล ส่วนเรื่องที่ลูกมีแฟนใหม่หรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่ทราบเลย

“ผมไม่ได้กล่าวว่าอะไร แต่อายุต้องดูมาก่อน จะมาผูกแขนกับเด็กรุ่นนี้เด็กจะอยู่กับเราจริงๆไหม แต่ก็ไม่อยากพูด เพราะเขาก็ผ่านโลกมาก่อน ส่วนเรื่องฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ ที่นายชูชาติมาลงทุนไว้นั้นก็อยากให้มาพูดคุยกัน เพราะผมก็เลี้ยงดูคนเดียวไม่ไหว ทรัพย์สินส่วนไหนที่คืนได้ ก็พร้อมที่จะคืนให้เช่นกัน” นายธีระพล กล่าว

ที่มา มติชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน