กลุ่มแม่ค้าย่านรังสิตกว่า 20 คนรวมตัวกันแจ้งความตำรวจกองปราบ หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์นำรถแบ็คโฮมารื้อร้านค้าที่ขายมานาน 20 ปี วอนพร้อมย้ายออกหากเจ้าของมาพูดดีดี

เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2567 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นางสาวศรีรัตน์ ทองเพชร อายุ 42 ปี ตัวแทน และกลุ่มผู้ค้าย่านรังสิตประมาณ 20 คน เข้าแจ้งความถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นนิติบุคคลใช้รถแบ็คโฮรื้อทำลายร้านค้าที่อยู่มานานกว่า 20 ปี ได้รับความเสียหายหลายหลัง

นางสาวศรีรัตน์ เปิดเผยว่า กลุ่มของตัวเองค้าขายในพื้นที่ดังกล่าวมานานกว่า 20 ปี โดยไม่ได้เสียค่าเช่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ เจ้าของที่รับปากว่าจะไม่เก็บค่าใช้จ่าย และยินดีให้ค้าขาย แต่ยอมรับว่า ก่อนที่ร้านจะถูกรื้อ มีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นนิติบุคคลนำเอกสารมาแจ้ง ขอให้ย้ายออกจากพื้นที่ แต่ทางกลุ่มของตัวเองไม่เชื่อ ว่าเป็นเจ้าของที่ดินตัวจริง หรือได้รับมอบอำนาจมาจากเจ้าของที่ตัวจริง

กระทั่งวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มชายฉกรรจ์นำรถแบ็กโฮ มารื้อถอน ขณะที่มีลูกค้ามานั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้าน ทำให้ลูกค้าและกลุ่มผู้ค้าตกใจแตกตื่น ซึ่งระหว่างการรื้อถอน พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทนายความ และเทศกิจ อยู่ในพื้นที่จุดเกิดเหตุด้วย ตนเองจึงมองว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการทำผิดกฎหมาย ทางกลุ่มผู่ค้าจึงรวมตัวเข้ายื่นแจ้งความ

ร้องกองปราบถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ รื้อร้านค้าต่อหน้าตำรวจ วอนพูดกันดีดี

ร้องกองปราบถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ รื้อร้านค้าต่อหน้าตำรวจ วอนพูดกันดีดี

ด้าน นางรุจี มั่นจงดี อายุ 63 ปี กล่าวว่าสำหรับพื้นที่ดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ มีเจ้าของเป็นคุณหญิงท่านหนึ่ง โดยคุณหญิงคนนี้ได้รับปากกับผู้ค้าว่า สามารถค้าขายได้โดยไม่ต้องย้ายออกไปไหน แต่หากมีการเปลี่ยนเจ้าของ หรือมีความประสงค์ที่จะให้ผู้ค้าย้ายออกไป ตัวเองจะเป็นผู้มาบอกกับผู้ค้าเอง

ซึ่งส่วนตัวยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเข้าใจดี และมองว่าที่ดินตรงนี้ไม่ใช่ของตัวเอง และยินดีที่จะย้ายออกโดยดี แต่กรณีที่มีกลุ่มคนอ้างว่าเป็นนิติบุคคล แล้วมาทำลายทรัพย์สินของทางกลุ่มผู้ค้า พวกตนจึงของแจ้งความดำเนินคดี เพราะทรัพย์สินเสียหาย ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ทำให้ต้องขาดรายได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน