เอฟบีไอ-ดีเอสไอ ร่วมสอบ คดี “โกฟุก ระนอง” โกงภาษีน้ำมัน ทำรัฐเสียหาย 1.8 หมื่นล้าน “วัชรินทร์ ” แจ้งรอเอกสารพร้อมสอบพยานเพิ่ม ยันจบขั้นตอนสอบสวน เม.ย.นี้แน่นอน

10 มี.ค. 67 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจพบว่า เครือข่าย นายสง่า กังวาล หรือ โกฟุก อายุ 60 ปี มีความเชื่อมโยงกับกระบวนการฉ้อโกงภาษี ในการสร้างหลักฐานการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปนอกประเทศที่เป็นเท็จ แล้วนำมาขอคืนภาษี

โดยเบื้องต้นพบว่า มีการดำเนินการ ต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ทำให้รัฐสูญเสียภาษีกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ต่อมาจากการสอบสวนพบว่า ความผิดบางส่วนเกิดนอกราชอาณาจักร จึงได้หารือไปยังอัยการสูงสุด ว่าคดีพิเศษที่ 116/2563 เข้าข่ายเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ซึ่งอัยการสูงสุด หรือผู้รักษาการแทนเป็นพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบหรือไม่

ต่อมา สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือแจ้งว่า อัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า ความผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความผิด ซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20

จึงมอบหมายให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษคนหนึ่งคนใด ในกรมสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวน และมอบหมายให้ นายฉัทปณัย รัตนพันธ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ นายปกาศิต เหลืองทอง อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ช่วยราชการสำนักงานการสอบสวน ปฏิบัติราชการในหน้าที่อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายการสอบสวน 2 และนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน คนใดคนหนึ่ง ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือผู้รักษาการแทนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ

ความคืบหน้าล่าสุด นายวัชรินท ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในขึ้นตอนการร่วมสอบสวนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีการประชุมกันทุกวันพุธ ที่ผ่านมาได้ประชุมหารือแนวทางการสืบสวนหาพยานหลักฐานมา 2 ครั้งแล้ว

ตอนนี้ต้องรอเอกสารให้พร้อมและยังต้องสอบพยานสำคัญเพิ่มเติมอีก เนื่องจากเรื่องนี้เป็นคดีใหญ่ คดีสำคัญต้องระเอียดรอบคอบ ส่วนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่อยู่นอกราชอาณาจักร ได้รวบรวมครบถ้วนแล้ว คาดว่า ภายในเดือน เม.ย. 67 นี้ จะสามารถจบขั้นตอนการสอบสวนและส่งสำนวนสั่งฟ้องได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจพบว่า เครือข่าย โกฟุก ระนอง มีความเชื่อมโยงกับกระบวนการฉ้อโกงภาษี ในการสร้างหลักฐานการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปนอกประเทศที่เป็นเท็จ แล้วนำมาขอคืนภาษี

โดยเบื้องต้นพบว่า มีการดำเนินการ ต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ทำให้รัฐสูญเสียภาษีกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท เป็นผลมาจากการขยายผลจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ก.พ. เป็นคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้กองคดีฟอกเงินทางอาญา เปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมเครือข่าย โกฟุก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับรายสำคัญของศาลอาญา ในคดีฟอกเงิน จากพนันออนไลน์

อันเป็นความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์หลอกลวงให้ประชาชนเข้าซื้อรางวัลเลขท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว โดยอ้างอิงผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งนำผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลของประเทศต่างๆ มาประกอบในการเชิญชวนให้มีการเล่นการพนันภายใต้เว็บไซต์หลายเว็บไซต์ เช่น ร่ำรวยร้อยล้าน, นพเก้า, นาคราช, ชอบหวย, ลอตโต้เอ็มเอ็ม, ดีเอ็นเอ, เยเย่ และอื่นๆ

เบื้องต้นพบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 1,000 ล้านบาท จึงรับไว้ทำการสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งการตรวจค้นครั้งนั้น ดีเอสไอ พุ่งเป้าหมายเข้าตรวจค้นจำนวน 27 จุด ในพื้นที่หลายจังหวัด รวมทั้งติดตาม จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับ รวม 18 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน