เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีศาลอุทธรณ์ ภาค 9 พิพากษาตัดสินจำคุก นายมาหาดี มะลี อายุ 30 ปี ชาว ต.เปาะเซ้ง อ.เมือง จ.ยะลา จากกรณีเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ขณะรักษาความปลอดภัย ขบวนรถคณะกรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (วท.กห.) เมื่อวันที่ 14 ก.ย.58 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ จำนวน 6 นาย เหตุเกิดบริเวณถนนสาย 418 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุม นายมาหาดี มะลี มาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 7 ก.ย.59 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิพากษาให้จำคุก นายมาหาดี มะลี เป็นเวลา 37 ปี 36 เดือน และให้ชำระค่าสินไหมทดแทน 2,500,000 บาท (สองล้านห้าแสนบาท) และจำเลยยื่นอุทธรณ์ และต่อมาเมื่อวันที่ 7 มี.ค.61 ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.32/59 คดีหมายเลขแดง ที่ อ.2496/59 โดยพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายมาหาดี มะลี จำเลย ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้าย อั้งยี่ พ.ร.บ.อาวุธปืน และวัตถุระเบิดฯ, พยายามฆ่าเจ้าพนักงานโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฯลฯ โดยพิจารณาลงโทษจำคุก นายมาหาดี มะลี 33 ปี 20 เดือน และให้ชำระค่าสินไหมทดแทน 2,500,000 บาท (สองล้านห้าแสนบาท)

นอกจากนั้น พฤติกรรม นายมาหาดี มะลี เป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการในพื้นที่ อ.เมือง จ.ยะลา มีประวัติการก่อเหตุความไม่สงบ ที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินมาแล้วหลายครั้ง และเคยถูกจับกุมมาแล้ว 2 ครั้ง

ครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 ส.ค.57 เกี่ยวข้องอุปกรณ์ระเบิดที่ตรวจยึดในพื้นที่ ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.57 ยังไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานที่ฟ้องได้จึงปล่อยตัวไป ครั้งสอง ก่อเหตุระเบิดขบวนรถคณะกรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (วท.กห.) บนถนนสาย 418 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 14 ก.ย.58 ทำให้อาสาสมัครทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 นาย

จากการสอบสวนติดตามขยายผลจาก สารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ ที่กล่องควบคุมระเบิดในที่เกิดเหตุตรงกับ นายมาหาดีนำไปสู่การจับกุม และเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาล ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายตามกระบวนการยุติธรรมซึ่งอยู่ในดุลยพินิจของศาล ซึ่งวินิจฉัยตามพฤติกรรมและพยานหลักฐานที่ทำให้ศาลเชื่อว่า ได้กระทำความผิดจริง จึงมีคำพิพากษาให้ลงโทษดังกล่าว โดยหวังว่าองค์กรจัดตั้ง หรือกลุ่มที่ชอบแอบอ้างว่าเป็นนักปกป้องสิทธิคงไม่ออกมาต่อต้าน หรือพยายามใช้กฎหมู่ให้อยู่เหนือกฎหมาย ดังเช่นหลายๆ กรณีที่ผ่านมา เพราะอาจทำให้สังคมเชื่อว่าเป็นกลุ่มกลับกลอกที่ไม่เคยมีอุดมการณ์ เพื่อประชาชนตามที่พยายามกล่าวอ้าง แต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน