คนเป็นพ่อสุดจะทน ลูกทาสยา โมโหทำฝาหม้อหล่น เดินถือมีดจะทำร้าย คว้าขวานฟันกลับไม่ยั้ง

คนเป็นพ่อสุดจะทน ลูกทาสยา โมโหทำฝาหม้อหล่น เดินถือมีดมาจะทำร้าย คว้าขวานฟันกลับไม่ยั้ง ใส่ยับทั้งหัว-แผ่นหลัง อาการปางตาย

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ร.ต.อ.พิเชฐ เกื้อหนู ร้อยเวร สภ.ปากพะยูน จ.พัทลุง รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 พัทลุง เหตุพ่อใช้ขวานฟันลูกบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง

หลังรับแจ้งเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพ รพ.บางแก้ว พบ นายสิทธิพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 71 ปี เจ้าของบ้านและผู้เป็นพ่อ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ส่วนลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บ คือ นายประเสริฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่พยาบาลนำตัวส่ง รพ.อย่างเร่งด่วน

ตรวจสอบภายในห้องครัวพบรอยเลือดไหลนองเต็มพื้น จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมด้วยขวาน 1 เล่ม ที่ใช้ก่อเหตุ

สอบสวน นายสิทธิพงษ์ ให้การว่า สุดทนจริงๆ ลูกชายมีอาการหลอนยาและป่วยทางจิตมาแล้วกว่า 3 ปี เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้เสพยาจนหลอน ตอนหลังอาละวาดรุนแรงมากขึ้น นั่งบ่นคนเดียวทะเลาะกับพ่อแม่ และยังเดินถือมีดอาละวาดจะทำร้ายชาวบ้าน

ชึ่งตนนำไปรักษาและบำบัดมาแล้วหลายครั้ง แต่พอกลับมาบ้านไม่ทานยา อาการกำเริบอีก ต้องทำใจและตนพยายามหลีกเลี่ยงพบปะลูกชายมาตลอด เพราะมักจะอาละวาดและด่าตนเอง แต่วันนี้สุดที่จะทน

ก่อนเกิดเหตุขณะตนกลับมาจากร่วมงานแต่งญาติในหมู่บ้าน รู้สึกหิวข้าว กำลังตักข้าวใส่จาน บังเอิญฝาหม้อข้าวตกลงบนพื้นเสียงดัง ทำให้ นายประเสริฐ ตะโกนด่าบุพการี เมื่อตนโต้เถียง ลูกเดินถือมีด จะเข้ามาทำร้าย ตนจึงหยิบขวานที่อยู่ใกล้ๆขึ้นมาฟันเข้าไปที่ศรีษะ

โดยจำไม่ได้ว่าฟันกี่ครั้ง ทั้งศีรษะและแผ่นหลัง จนลูกชายล้มลงและนอนแน่นิ่งไป ก่อนภรรยาตะโกนเพื่อนบ้านให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถพยาบาลเข้าช่วยเหลือ

ผู้เป็นพ่อยังกล่าวกับตำรวจอีกว่าสุดทนจริงที่ต้องทำแบบนี้ ไม่มีใครอยากทำร้ายลูกตัวเอง แต่ลูกตนนั้นมันดื้อ และเสพยา จนไม่รู้จักพ่อแม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวนายสิทธิ์พงษ์ มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป