ครอบครัวคาใจ ฟอร์จูนเนอร์ ชนจักรยานยนต์ครูดไปกับถนน ช่างตัดผม เสียชีวิตสลด วงจรปิดเห็นคนขับเป็นชายหนุ่มลงจากรถ แต่กลับมีลุงรับว่าเป็นคนขับ หวั่นเปลี่ยนตัว
วันที่ 23 มี.ค.2567 พ.ต.ท.สุรเดช ประสงใด สารวัตร(สอบสวน) สภ.ปะคำ เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ บริเวณสี่แยกบ้านปลื้มพัฒนา ถนนปะคำ-เสิงสาง ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย สว่างจรรยาธรรมจุดอำเภอปะคำ และกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบลโคกมะม่วง
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สภาพชนกับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตชื่อ นายองอาจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี คนขับรถจักรยานยนต์ มีอาชีพเป็นช่างตัดผม
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนใกล้จุดเกิดเหตุสามารถบันทึกภาพอุบัติเหตุดังกล่าวได้อย่างชัดเจน โดยในกล้องวงจรปิดไม่เห็นจังหวะที่ชนว่าชนในลักษณะใด แต่ได้ยินเสียงบีบแตรและเสียงชนอย่างแรง
ก่อนจะเห็นภาพรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ปรากฏในกล้องวงจรปิดเหมือนกับพยายามจะเบรกจนรถเซไปกลางถนน ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ถูกชนครูดไปบนพื้นถนนจนเกิดประกายไฟ
ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์ก็กลิ้งไปตามถนนก่อนจะนอนแน่นิ่ง จากนั้นก็เห็นคนขับเป็นผู้ชายคาดว่าน่าจะอายุไม่เกิน 40 ปี ลงมาจากรถฟอร์จูนเนอร์ เดินไปมาบางช่วงเหมือนมีการโทรศัพท์
ทั้งนี้ ชาวบ้านและญาติผู้ตายที่เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งดูกล้องวงจรปิด กลับแปลกใจเมื่อมีชายสูงอายุคนหนึ่ง ไปยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นคนขับ
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เกิดอุบัติเหตุในลักษณะยังไง คุณลุงที่อ้างว่าเป็นคนขับฟอร์จูนเนอร์บอกว่า กำลังจะขับรถกลับบ้านแต่รถจักรยานยนต์ไม่เปิดไฟแล้วพุ่งออกมาจากซอย เบรกไม่ทันจึงพุ่งชนอย่างแรง แต่ขณะที่กำลังจะถามคุณลุงต่อ ก็มีคนสะกิดว่าไม่ต้องพูดแล้ว ก่อนจะพาตัวไปโรงพัก
ด้าน นางเทียม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี ป้าของผู้ตาย ซึ่งเดินทางมาดูศพหลานที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุหลานน่าจะแวะไปตลาดนัดคลองถม ซึ่งอยู่ระหว่างทางกลับบ้าน ตนไม่ทราบว่าเกิดเหตุชนกันยังไง แต่เท่าที่ดูจากกล้องวงจรปิด และชาวบ้านเล่าให้ฟัง รถฟอร์จูนเนอร์ก็ขับมาเร็วมากเหมือนกัน
นางเทียม กล่าวต่อว่า อยากให้มีการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ด้วย แล้วยิ่งมาเห็นจากภาพวงจรปิดว่าคนขับที่ลงจากรถฟอร์จูนเนอร์เป็นคนละคนกับที่ยอมรับกับตำรวจว่าเป็นคนขับ ก็ยิ่งคาใจ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนตัวคนขับจริงก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
นางเทียม กล่าวอีกว่า อยากให้ความเป็นธรรมกับหลานที่เสียชีวิตด้วย เพราะหลานก็เหมือนเป็นเสาหลัก เพราะพี่สาวเขาก็เพิ่งจะโดนรถชนขาหักเมื่อเดือนที่ผ่านมา แม่ต้องคอยดูแล น้องก็มาถูกรถชนตายอีก
นางเกษา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี น้าของผู้ตาย กล่าวว่า หลังทราบเรื่องก็รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุทันที เพราะแม่เขาช็อกมาไม่ได้ จากนั้นได้เดินทางไปที่โรงพักก็เห็นลุงอ้างว่าเป็นคนขับ ซึ่งเท่าที่เห็นในวงจรปิดมันเป็นคนละคน และตนก็พอรู้จักกับลุงอยู่บ้าง ก็ไม่เคยเห็นลุงขับรถยนต์ อยากขอความเป็นธรรมให้หลานด้วย เพราะไม่รู้ว่าการเปลี่ยนตัวคนขับจะมีผลอะไรกับคดีหรือไม่
จากนั้นได้โทรศัพท์สอบถาม พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ เถียรกิตติพงศ์ ผกก.สภ.ปะคำ เกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าวที่ญาติคาใจเรื่องคนขับ ผกก. กล่าวว่า จะสอบถามรายละเอียดข้อเท็จจริงก่อน พร้อมทั้งจะย้ำให้พนักงานสอบสวนทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย