ฆ่าโหดหนุ่ม ทิ้งศพนอนอยู่หน้าบ้าน ช็อกซ้ำเมียเก่า นั่งเฝ้าร่างอดีตผัวอยู่ถึง 7 วัน ญาติติดใจการเสียชีวิต ตำรวจเร่งสอบสวนและตรวจสอบในบ้าน
วันที่ 24 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.บ้านดุง และตร.สภ.บ้านดุง เข้าตรวจสอบศพ ถูกฆาตกรรมจนขึ้นอืด ที่บ้านพัก ต.นาคำ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังมีชาวบ้านไปพบศพนายสมนึก อายุ 57 ปี เสียชีวิตอยู่ระเบียงหน้าบ้านของนางพร อายุ 49 ปี อดีตภรรยา
สภาพศพนอนเสียชีวิตคว่ำหน้า มีบาดแผลถูกของมีคมฟันเข้าที่บริเวณศีรษะ สภาพศพขึ้นอืด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 วัน
ภายในบ้านเจ้าหน้าที่พบกับเจ้าของบ้านคือ นางพรอยู่ในห้องไม่ยอมออกไปไหน คาดว่าเฝ้าศพอดีตสามีถูกฆ่ามาหลายวัน และเจ้าตัวมีอาการป่วยทางประสาทและซึมเศร้า ยังมีอาการเหม่อลอยและตกใจ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไป รพ.สมเด็จพระยุพราช ให้การรักษาต่อไป ส่วนศพนายสมนึก เจ้าหน้าที่นำศพไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.ศรีนครินทร์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ช่วงสายวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังเกิดเหตุจุดที่พบศพอีกครั้ง โดยพบว่าสภาพของบ้านเป็นบ้านยกพื้นชั้นเดียว หน้าบ้านมีเชือกฝางกั้นไว้ห้ามเข้า บริเวณที่พบศพเป็นระเบียงหน้าบ้าน มีรองเท้าคาดว่าเป็นของคนร้ายอยู่ 1 คู่ และมีกองเลือดที่แห้งเต็มพื้นกระเบื้องระเบียงหน้าบ้าน และรอยเลือดติดอยู่ระเบียงตรงที่นั่ง ยังมีกลิ่นศพเหม็นคละคลุ้งหลงเหลืออยู่
นายสาคร ปาลสุโต ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านคำบอน เปิดเผยว่า เมื่อวานมีชาวบ้านไปแจ้งว่ามีกลิ่นเหม็นรุนแรง คล้ายกลิ่นปลาร้าออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้งจึงออกมาตรวจสอบ ตกใจแทบช็อกพบว่ามีศพนอนตายบริเวณหน้าบ้าน และพบนางพรเจ้าของบ้าน นั่งอยู่ในบ้านเฝ้าศพอดีตสามีอยู่ จึงรีบโทรแจ้ง 191 ต่อมาตำรวจ สภ.บ้านดุง เข้ามาตรวจสอบ
เท่าที่รู้ทั้ง 2 คน เคยเป็นสามีภรรยากัน แต่เลิกราแยกทางกันเกือบสิบปีแล้ว ส่วนใหญ่ผู้ชายนานครั้งจะมาหา โดยบ้านหลังนี้มีผู้หญิงคือ นางพรอยู่บ้านคนเดียวและมีอาการป่วยทางจิตและป่วยซึมเศร้า ชีวิตส่วนใหญ่ของผู้หญิงชาวบ้านแถวนี้รู้ดีว่าจะไม่ออกจากบ้าน ไม่มีการมีงานทำ จะกักตัวอยู่ในบ้านเงียบๆ แต่ลูกส่งเงินให้ใช้ทุกเดือน ส่วนตัวคิดว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้น อาจจะเกิดจากถูกฆาตกรรม ส่วนจะใครจะฆ่านั้น คงต้องรอตำรวจสืบสวนหาสาเหตุ โดยทราบจากชาวบ้านว่า เกือบ 1 อาทิตย์แล้วที่นายสมนึกได้ขี่รถจยย.มาหาอดีตภรรยาแล้วถูกฆ่าตาย จนมีชาวบ้านได้กลิ่นศพจึงมาบอก
Advertisement
นางประพิณ อายุ 70 ปี ญาติผู้เสียชีวิต เล่าว่า ขณะกำลังรดน้ำต้นไม้ที่สวนได้กลิ่นเหม็น ออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว แต่ตนไม่ได้สงสัยว่าจะมีการเสียชีวิตที่บ้านคิดว่าสัตว์ตาย หลายวันผ่านไปก็ยังมีกลิ่นเหม็นแรงขึ้น จึงออกตามหาบริเวณรอบบ้านทั้งโรงรถก็ไม่พบซากสัตว์เน่าตาย เมื่อวานเหม็นมาก ชาวบ้านบอกให้ตนขึ้นไปดูที่บ้านหลังนี้ แต่ตนก็ไม่กล้าไป เนื่องจากกลัว เพราะเคยขึ้นไปแล้วถูกนางพวงพรด่ากลับมา ต่อมาทนกลิ่นเหม็นไม่ไหว จึงให้หลานพาไปดูจึงพบศพคนเสียชีวิต จึงรีบโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ออกมาดู
สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นเป็นหลานเขย นางพรก็เป็นหลานเหมือนกัน จะอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว และมีอาการทางประสาท ตอนคบกันกับนายสมนึกได้มีลูก 3 คน แต่โตและแยกย้ายไปมีครอบครัวมีงานทำหมดแล้ว แต่ยังส่งเงินมาดูแลให้แม่ใช้จ่าย ล่าสุดก่อนจะมาพบศพ นายสมนึกขี่รถจยย.มาหาอดีตภรรยาที่บ้าน ก็แปลกใจว่ามาทำไมหรือจะคืนดีกัน กระทั่งมารู้ว่าถูกฆ่าตาย
ด้านเพื่อนบ้านบอกว่า ตนนอนอยู่ศาลาหน้าบ้านที่พบศพคนตาย ไม่สงสัยอะไรและไม่เอะใจว่ามีการฆ่ากันตาย เพราะช่วง 1 อาทิตย์ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกันด้วย มารู้อีกทีได้กลิ่นนึกว่าปลาร้า แต่ก็ไม่สนใจ จนมีตำรวจมาที่บ้านหลังดังกล่าวว่าพบศพนายสมนึกนอนตายระเบียงหน้าบ้านแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพัก ต.นาคำ ซึ่งเป็นบ้านของนายสมนึก พบญาติกำลังเตรียมงานศพ โดยจะนำร่างนายสมนึกกลับมาที่บ้าน เพื่อทำพิธีทางศาสนา นางวันดี อายุ 80 ปี แม่นายสมนึก บอกว่า ลูกชายกับนางพวงพรเลิกกันนานแล้ว แต่ก่อนเป็นรปภ.ที่กรุงเทพฯ มาอยู่บ้านตอนนี้เช่านาปลูกข้าว ไม่ค่อยได้คุยกับลูกชายคนนี้ เพราะเป็นคนอารมณ์ร้อน เข้ากับพี่น้องไม่ได้ มารู้อีกทีมีชาวบ้านแจ้งว่าลูกชายตายแล้ว ก็คงไม่เอาผิดใคร ปล่อยไปตามกรรมแล้วกัน
น้องส้ม อายุ 30 ปี ลูกสาวของนางพวงพร เปิดเผยว่า วันนี้มีโอกาสไปเช็ดตัวให้แม่ที่โรงพยาบาล โดยติดใจเรื่องการเสียชีวิตของพ่อ และที่หลายคนสงสัยคิดว่า แม่ที่มีอาการป่วยจิตจะเป็นคนฆ่าพ่อ ก็ยังไม่ปักใจเรื่องนี้ เพราะศพพ่อนอนคว่ำหน้า คล้ายถูกทำร้ายด้วยอาวุธจากด้านหลัง โดยพ่อนั่งอยู่ระเบียงหน้าบ้านหันหน้าเข้าตัวบ้าน พอถูกฟันก็ล้มคว่ำหน้าไปเลย ตำรวจเอามีด 3 เล่มไปตรวจสอบไม่พบร่องรอยเลือดในมีด และถ้าแม่ฆ่าพ่อถือมีดเข้าบ้านจะไม่มีรอยเลือดหยดในบ้านเลยหรือ
อีกอย่างตามร่างกายของแม่ไม่พบรอยขีดข่วน หากแม่ทำร้ายก็ต้องมีการต่อสู้กันบ้าง อีกอย่างผิดสังเกตคือระเบียงกับท่าพ่อนั่งจะสูงรวมกันเกือบ 2 เมตร แต่แม่มีความสูง 153 ซม. และเป็นคนถนัดซ้าย แต่ดูจากสภาพศพเหมือนฟันด้วยมือขวา ตนไปสอบถามแม่ แม่ก็บอกว่าไม่ได้ฆ่าพ่อ จึงอยากให้ช่วยเรื่องคดีให้แม่ด้วย
