แม่เหยื่อระเบิดไต้หวันร่ำไห้วอนนายก รมต.ช่วยนำศพลูกชายกลับบ้าน เผยเป็นลูกชายคนเดียวเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวพ่อแม่ลูกเมีย

จากเหตุระเบิดที่โรงงานเจวี๋ย เฟิง อะลูมิเนียม จำกัด (Juei Feng Aluminium) ในเขตหูเน่ย นครเกาสง ทางตอนใต้ของเกาะไต้หวัน เมื่อวันที่ 23 มี.ค. เป็นเหตุให้มีแรงงานชาวไทยเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 6 คน โดยเหตุครั้งนี้มีแรงงานไทยเสียชีวิต 2 ราย คือ นายศักดา ยุรยาตร อายุ 37 ปี ชาวศรีสะเกษ และชาย ชาว จ.ชัยภูมิ (อ่าน โรงงานอะลูมิเนียมไต้หวันระเบิด สลดคนงานไทยดับ 2 ศพ-บาดเจ็บอื้อ เสียหายยับ)

คืบหน้าวันที่ 26 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่11 บ้านโพธิ์ลังกา ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เป็นบ้านของนางอำมะรา ยุรยาตร อายุ 62 ปี แม่ของนายศักดา แรงงานไทยที่เสียชีวิต

โดยพบว่ากำลังนั่งปรึกษาหารือกับลูกสาว 2 คน คือ นางวันเพ็ญ อายุ 43 ปี ลูกสาวคนโต และ นางหัด อายุ 40 ปี ลูกสาวคนที่2 โดย นายศักดา ที่เสียชีวิตเป็นลูกชายคนเล็กและเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ขณะที่หน้าบ้านมีการกางเต็นท์จัดเก้าอี้ เพื่อเตรียมจัดพิธีศพ บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศกที่ต้องสูญเสียลูกชายคนเดียวของบ้านไปอย่างกะทันหัน

นางอำมะรา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ แม้ว่าจะได้เงินมากเท่าไหร่ตนก็ไม่อยากได้ ตนอยากได้ชีวิตของลูกชายกลับคืนมา พ่อแม่ไม่มีใครดูแลพ่อก็พิการนอนติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนแม่ก็ป่วยเป็นโรคเบาหวานเจ็บป่วย ศักดาเป็นลูกชายคนเล็กมีพี่สาว 2 คนเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านและเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวลูกเมียและพี่สาว ศักดาไปทำงานก็ฝากเงินมาให้พ่อแม่และพี่สาวได้ใช้

ซึ่งขณะนี้เพิ่งใช้หนี้เงินที่กู้ไปทำงานที่ไต้หวันหมดไปเมื่อช่วงเดือนกันยายนปี 2556 โดยศักดายืมเงินไปทำงานประมาณ 100,000 บาทและได้ทำงานส่งเงินมาใช้หนี้โดยไปทำงานที่ประเทศไต้หวันเมื่อเดือนตุลาคม 2565 มีสัญญาในการทำงาน 3 ปี โดยเป็นแรงงานที่ไทยที่ไปทำงานถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งศักดาไปทำงานได้ 1 ปี 5 เดือนแล้ว ซึ่งบริษัทที่ไปทำงานนี้พี่เขยของนายศักดาก็เคยไปทำงานมาแล้ว โดยไปทำงานหากมีโอทีจะมีเงินเดือน ๆ ละประมาณ 40,000 บาทเศษ

ตนอยากฝากถึงท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยเหลือด้วยหากไม่นำศพกลับคืนมาให้ก็ขอให้นำเอากระดูกกลับมาให้ทำบุญ แม่คิดถึงแต่กับลูกชายคนนี้มาก เพราะว่าได้อาศัยลูกชายคนนี้ในการดูแลพ่อแม่ลูกเมียญาติพี่น้อง พ่อก็พิการแม่ก็ไม่สบาย ต้องอาศัยลูกชายในการดูแลเลี้ยงดู

พอลูกชายมาเป็นแบบนี้แม่ก็ไม่มีที่คิดจะพึ่งพิงได้แล้ว ขอความเมตตาจากท่านนายกรัฐมนตรีขอให้ช่วยเหลือด้วย หากไม่นำเอาศพกลับมาให้ก็ขอให้นำกระดูกอัฐิกลับมาให้พ่อแม่ลูกเมียญาติพี่น้องได้ทำบุญด้วยโดยด่วนด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน