เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 (บช.ภ.7) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. กล่าวภายหลังสอบปากคำ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์ป่าฯ พร้อมชุดจับกุม และแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าพิสูจน์ซากสัตว์ คดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 ราย ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 30 นาที
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายวิเชียรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยนายวิเชียรไม่ประสงค์จะร้องทุกข์กล่าวโทษในเรื่องอื่นๆนอกเหนือจาก 9 ข้อหา ร่วมกันล่าสัตว์ป่าฯ ที่สภ.ทองผาภูมิ และข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน ซึ่งแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่บก.ปปป.
ส่วนการตรวจพิสูจน์ซากสัตว์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการทารุณกรรม เนื่องจากไม่มีประจักษ์พยาน ทั้งนี้ พยานหลักฐานที่มีเพียงพอสามารถเอาผิดกับนายเปรมชัยได้ โดยเฉพาะดีเอ็นเอที่พบติดอยู่ที่ปืนของนายเปรมชัยก็เป็นหลักฐานสำคัญ พร้อมกันนี้ได้ส่งมีดที่พบในที่เกิดเหตุ ไปตรวจทราบกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าพบดีเอ็นเอของใครหรือไม่ กำชับรายงานผลให้ทราบพรุ่งนี้ ส่วนกรณีที่นายเปรมชัยมีกำหนดออกเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 10 มี.ค. นี้ ยืนยันไม่กังวล เนื่องจากพนักงานสอบสวนดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหา และขออำนาจศาลฝากขังไปแล้ว เป็นเรื่องของศาล
ด้าน พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะที่ปรึกษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ตนมาในฐานะอนุกรรมการติดตามความคืบหน้าของคดีฯ เป็นการแชร์ประสบการณ์ในการทำงานในฐานะที่เคยทำคดีเกี่ยวกับการล่าสัตว์ป่ามาก่อน กรณีนี้ตนบอกตั้งแต่แรกแล้วว่ามีวัตถุพยาน หลักฐานชัดเจนในการดำเนินคดี ส่วนกรณีที่ตำรวจระบุว่ารอเอกสารและผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากทางกรมอุทยานฯ เรื่องนี้ไม่ขอก้าวล่วง และไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เป็นเรื่องระหว่างกรมอุทยานฯกับพนักงานสอบสวนที่มีการประสานงานกันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
