ผวากันทั้งซอย หนุ่มคลั่งใช้อิฐบล็อกทุบรถกระบะ ทำร้ายญาติ ชูนิ้วใส่วงจรปิดเย้ย ชาวบ้านวอนส่งตัวรักษาโดนกันทั้งซอย

วันที่ 7 เม.ย. 67 นายชำนาญ ตั๋นก้อน อายุ 36 ปี นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่บ้าน ที่บันทึกภาพชายอายุประมาณ 40 ปี ไม่สวมใส่เสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีแดงตัวเดียว เดินถือบล็อกมาหนึ่งก้อน จากนั้นปาเข้าไปที่กระจกหน้าของรถกระบะ อีซูซุ สีขาว ที่จอดไว้ในโรงรถหน้าบ้าน จนกระจกแตก ตัวรถเสียหาย เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.รุ่ง ปัญญา รองสว.(สอบสวน) สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

นายชำนาญ ผู้เสียหาย ชี้ให้ดูความเสียหายบริเวณกระจกหน้ารถ พบรอยแตกร้าวของกระจกหน้าและยุบเป็นวงกว้าง นอกจากนั้นยังพบเศษก้อนอิฐบล็อกที่แตกตกอยู่ท้ายกระบะจึงนำมาไว้เป็นหลักฐาน

นายชำนาญ กล่าวว่า ช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมาขณะที่ตนนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดังตอกแรกคิดว่า แมวปีนจนทำให้ของตก จึงไม่ได้ออกมาดู จนช่วงเช้าเตรียมจะขับรถไปทำงาน พบว่ากระจกหน้าแตกร้าว ตัวรถได้รับความเสียหาย พบมีเศษของอิฐบล็อก ตกอยู่ในท้ายกระบะและพื้นที่จอดรถ จึงไปเปิดกล้องวงจรปิดดู

พบว่ามีนายธวัชชัย อายุ 40 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน อาศัยอยู่ในซอยเดียวกัน เดินตรงเข้ามาแล้วใช้ก้อนอิฐบล็อกขนาดใหญ่ ขว้างปาใส่เขามาที่กระจกหน้ารถของตนเองจนแตกเสียหายเดินจากไปอย่างใจเย็น

สำหรับตนเองและนายธวัชชัย ถึงจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน บ้านติดกัน แต่ไม่เคยคุยกันต่างคนต่างอยู่ ไม่เคยมีปากเสียกัน แต่พอจะทราบ นายธวัชชัย มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 นายธวัชชัย เคยใช้จอบเข้ามาทุบรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ของน้องชายตนเองที่จอดอยู่ในโรงรถจนได้รับความเสียหาย หลังก่อเหตุเสร็จยังมีการชูนิ้วกลางโชว์ผ่านกล้องวงจรปิด ได้ไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่ง นายธวัชชัย ถูกดำเนินคดีหายไปไม่นานกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก

นายชำนาญ กล่าวว่า ตนมีความรู้สึกไม่ปลอดภัย กลัวว่านายธวัชชัย จะมาทำร้ายคนในครอบครัวของตน ทั้งแม่ที่สูงอายุ และลูกสาววัย 8 ปี เพราะตนต้องไปทำงานไม่ได้อยู่ที่บ้านตลอด ไม่รู้ว่าวันไหน นายธวัชชัย จะกลับมาทำร้ายคนในบ้านวันไหน

ด้าน นายเฉียบ อายุ 64 ปี อาของนายธวัชชัย กล่าวว่า ตนเอือมระอาอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพา นายธวัชชัย ไปบำบัดรักษา เนื่องจากตอนนี้มีอาการคลั่งมากขึ้น ทำร้ายทุบตีชาวบ้านและทำร้ายทุบรถของญาติพี่น้องเสียหายมาแล้ว 3 คัน ขนาดตนซึ่งเป็นอาแท้ ๆ ยังถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งหากปล่อยเอาไว้คนในในบ้านไม่ปลอดภัยแน่

ส่วน นางบุญเกียรติ อายุ 59 ปี อาของ นายธวัชชัย เช่นเดียวกัน กล่าวว่า อาการของหลานคนนี้เหมือนคนไม่ปกติ บางทีก็หัวเราะคนเดียว พูดคนเดียว แต่บางทีถ้าพูดดี ๆ ก็รู้เรื่อง ก่อนหน้านี้ติดยาเสพติด เคยนำไปบำบัดรักษามาแล้ว

แต่เมื่อกลับมาบ้านได้ระยะหนึ่งกลับไปเสพยาอีก ไล่อาละวาดทำร้ายคนอื่นรถชาวบ้านแล้วก็ทำร้ายรถคนในบ้าน ซึ่งทำให้เดือดร้อนกันไปหมด คนในบ้านพ่อแม่ ไม่รู้จะทำอย่างไร อยากให้หน่วยงานช่วยเอาตัวหลานชายไปบำบัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน