น้องสาวช็อก พี่ชายเมาหนัก หายไป5วัน กลายเป็นศพถูกแดดเผากลางทุ่ง

น้องสาว ช็อก พี่ชายเมาหนัก หายไป 5 วัน ก่อนพบเป็นศพ นอนร่างไหม้กล้างทุ่งนา คาดเป็นลมล้มตากแดดแรงจนถูกเผา เผย สงสัยปกติไม่ใช้ทางนี้เดินสัญจร

วันที่ 14 เม.ย.2567 ร.ต.ท.เชษฐญานิน เนียมเกาะเพ็ชร รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุคนนอนเสียชีวิต ลำตัวไหม้เกรียมอย่างปริศนา กลางท้องนา ม.2 ต.หนามแดง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลพุทธโสธร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา

ที่เกิดเหตุในท้องนา พบผู้เสียชีวิตชื่อ นายอนัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้า ร่างกายไหม้เกรียมจนผิวดำคล้ำ สวมกางเกง ไม่สวมเสื้อ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

น้องสาว ช็อก พี่ชายเมาหนัก หายไป 5 วัน ก่อนพบเป็นศพ นอนร่างไหม้กล้างทุ่งนา คาดเป็นลมล้มตากแดดแรงจนถูกเผา เผย สงสัยปกติไม่ใช้ทางนี้เดินสัญจร

จากการสอบถาม นางสว่างจิตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่เพียงคนเดียว และอยู่ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 300 เมตร ปกติแล้วผู้ตายจะไม่ใช้ทางนี้เดินสัญจรผ่านไปมา ตนก็แปลกใจเหมือนกันว่าผู้ตายมานอนเสียชีวิตอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร

นางสว่างจิตร กล่าวต่อว่า ซึ่งตนเจอพี่ชายครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงเช้ามืดตนจะออกไปทำงาน แล้วจะกลับเข้าบ้านที่อยู่ติดกันในช่วงค่ำ ตอนแรกเห็นพี่ชายหายไปก็ยังไม่ได้เอะใจ จนผ่านไป 2-3 วัน จึงไปถามพี่สาว

นางสว่างจิตร กล่าวอีกว่า และทราบว่าพบผู้ตาย เมื่อวันที่ 9 เม.ย.เช่นเดียวกัน เพราะผู้ตายเมามา และมาขอเงินพี่สาวไปซื้อเหล้าก่อนจะหายไป ตนเพิ่งจะไปแจ้งความเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ พอตกเย็นก็เดินตามหา ก่อนจะมาพบพี่ชายนอนเสียชีวิต

นางสว่างจิตร กล่าวด้วยว่า ส่วนสาเหตุที่พี่ชายมีร่างกายที่ไหม้เกรียมนั้น คาดว่าน่าจะมาจากการกินเหล้าหนัก และนอนเสียชีวิตตากแดดมาเกือบ 5 วัน ทำให้ผิวหนังที่เริ่มเปื่อยถูกแดดเผามาหลายวัน จึงดำเหมือนร่างกายถูกเผาไหม้

น้องสาว กล่าวว่า พี่ชายมีโรคประจำตัวคือ โรคถุงลมโป่งพอง และโรคความดัน จึงอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งในการเสียชีวิต ขณะที่พี่ชายกินเหล้าเมาแล้วเดินตากแดด ก็อาจจะเป็นลมล้มลงตรงนี้ โดยไม่มีใครเห็นก่อนจะมาเสียชีวิตในที่สุด

เบื้องต้นแพทย์นิติเวชได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรานำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลพุทธโสธรเพื่อทำการผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัด ก่อนจะมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป